วิหารโป๊ยเซียนโจวซือ

วิหารโป๊ยเซียนโจวซือ

เผยแพร่เมื่อ: 7 เมษายน 2565 | 

ปรับปรุงแก้ไขเมื่อ: 8 เมษายน 2565

ชื่ออื่น เม่งซวงเซี่ยงตั๊ว, มูลนิธิแพร่ศีลธรรมการกุศลสงเคราะห์ , อี่เยี่ยงไท้
ที่ตั้งตามการปกครอง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว
ละติจูด 13.556592
ลองจิจูด 100.0418683
รายละเอียดศาสนสถานและศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์

วิหารโป๊ยเซียนโจวซือ ตั้งอยู่ในที่ดินของมูลนิธิแพร่ศีลธรรมการกุศลสงเคราะห์  (เม่งซวงเซี่ยงตั๊ว) ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว ริมคลองดำเนินสะดวกและคลองอ้อมใหญ่ โดยตั้งอยู่ปากคลองอ้อมใหญ่ที่เชื่อมกับคลองดำเนินสะดวก

ประวัติความเป็นมาของมูลนิธิแห่งนี้  เริ่มเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ. 2501 โดยการนำของคุณประวิทย์ เกษตรสิน (จิ่วฮวด แซ่กอ) ซึ่งปัจจุบันได้ล่วงลับไปแล้ว คุณประวิทย์ได้พิจารณาเห็นว่าพี่น้องชาวจีน-ไทย ที่อาศัยอยู่ในบริเวณคลองดำเนินสะดวกที่มีเขตติดต่อระหว่าง 2 อำเภอ คือ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ชาวบ้านบริเวณนี้ประกอบอาชีพทำสวนและค้าขาย มีการไปมาหาสู่กันยาวนาน ผู้คนอาศัยกันอยู่หนาแน่น แต่มีสุสานสำหรับฝังศพผู้เสียชีวิตเพียงแห่งเดียว  สุสานมีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่เศษ การฝังศพก็ไม่เป็นระเบียบและไม่มีการล้างป่าช้าไม่น้อยกว่า 60-70 ปี ทำให้พื้นที่ฝังศพไม่เพียงพอ คุณประวิทย์จึงได้เชิญบรรดาพ่อค้า คหบดีมาปรึกษากันเพื่อทำการล้างป่าช้าเผาศพไร้ญาติเพื่อเป็นการกุศล  ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยและแต่งตั้งให้คุณประวิทย์เป็นประธานกรรมการและจัดตั้งกรรมการขึ้น กรรมการได้ไปติดต่อกับสมาคมพุทธมามะกะการกุศลสงเคราะห์แห่งประเทศไทย สำนักงานอยู่ที่ จ. ชลบุรี ทางสมาคมก็ให้ความร่วมมือด้วยดีโดยมอบให้เม่งจิงเซี่ยงตั๊ว แห่งอำเภอโพธารามเป็นพี่เลี้ยง (จู๋ตั๊ว) และทำพิธีอัญเชิญท่านโป๊ยเซียนโจวซือมาดำเนินงานเก็บศพในครั้งนี้ด้วย โดยตั้งโรงพิธีที่ลานวัดหลักห้า(วัดประสาทสิทธิ์) เริ่มพิธีประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 ได้รับชื่อว่า เม่งซวงเซี่ยงตั๊วในขั้นต้น และเป็นตั๊วอันดับที่ 16 ในเครือของสมาคมพุทธมามกะการกุศลสงเคราะห์ฯ

สมาคมพุทธมามกะการกุศลสงเคราะห์ฯ ก็ส่งสมาชิกในเครือมาช่วยเหลือ รวมป่าช้าที่จะเก็บศพไร้ญาติในครั้งนั้นทั้ง 2 อำเภอประมาณร้อยกว่าป่าช้า ใช้เวลาเก็บศพและทำพิธีกรรมรวม 64 วัน มีประชาชนจำนวนนับหมื่นคน  เมื่อออกไปขุดศพแต่ละวันจะมีประชาชนมีจิตศรัทธาร่วมไปทำการขุดศพด้วยเป็นจำนวนหลายร้อยคน ทางตั๊วได้จัดตั้งโรงทานหุงข้าวหาอาหารเจเลี้ยงทุกมื้อเป็นเวลา 64 วัน ใช้ข้าวสารประมาณ 160 กระสอบและอาหารอื่นๆอีกจำนวนมาก อาหารและเงินเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา  เมื่อเก็บศพครบหมดทุกป่าช้าแล้วก็ทำพิธีเผา นำกระดูกที่เหลือจากการเผาไปบรรจุ ณ สุสานส่วนรวม (บ้วนยิ้นหมอ) ซึ่งตั๊วลงทุนสร้างไปแสนกว่าบาท  รวมค่าใช้จ่ายในการล้างป่าชั้นครั้งนั้นประมาณ 7 แสนกว่าบาท  

เงินที่เหลือจากการล้างป่าช้า นำไปสร้างตั๊วชั่วคราวขึ้นเป็นเรือนไม้โดยตั้งชื่อว่า เม่งซวงเซี่ยงตั๊วมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่างๆ ช่วยทำการเก็บศพไร้ญาติ  เก็บซากสัตว์ตายตามลำคลองมาจัดการฝังเพื่อรักษาน้ำในคลองให้สะอาด ถ้าเกิดน้ำเค็มก็นำน้ำจืดออกไปแจกจ่าย ร่วมมือกับทางราชการช่วยเหลือผู้ประสบภยันตรายต่างๆ และร่วมกับสมาคมพุทธมามะกะการกุศลสงเคราะห์ทำการเก็บศพไร้ญาติตามตั๊วที่ตั้งขึ้นใหม่  นอกจากนั้น ยังเปิดเป็นโรงเจ บูชาท่านเทพโป๊ยเซียนโจวซือ นำคำสอนของเทพมาปฏิบัติ     ในแต่ละปีทางตั๊วมีค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นเงิน 2-3 แสนบาท   เงินที่ใช้จ่ายนี้ได้มาจากผู้บริจาคบ้างและเงินรายได้จากสุสานบ้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 เม่งซวงเซี่ยงตั๊วได้ขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยจัดตั้งเป็นมูลนิธิ   และตั้งชื่อว่า มูลนิธิแพร่ศีลธรรมการกุศลสงเคราะห์ มูลนิธิได้ดำเนินนโยบายช่วยเหลือประชาชนมาตลอด จนเป็นที่เชื่อถือของประชาชนชาวดำเนินสะดวกบ้านแพ้วและจังหวัดใกล้เคียง

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2513  มีการเก็บศพไร้ญาติขึ้นอีกครั้ง หลังจากเสร็จงาน ทางมูลนิธิฯ มีเงินเหลือประมาณ 2 แสนบาท ได้นำไปฝากธนาคารไว้เป็นทุนเพื่อขยายงานต่อไป  ในปี พ.ศ. 2514 มูลนิธิฯ ได้ซื้อที่ดินตำบลวัดโคก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี รวมเนื้อที่ 143 ไร่ เพื่อจัดเป็นสุสานเพิ่มเติมอีกหนึ่งแห่ง จัดสร้างศาลาพักศพ 1 หลัง เจาะบ่อน้ำบาลดาล 1 บ่อ ลงทุนเดินสายไฟสร้างถนนจากทางหลวงเข้าไปหาศาลาพักศพและอื่นๆ รวมเงินลงทุนประมาณหนึ่งล้านสามแสนกว่าบาท   ประมาณปี พ.ศ. 2517 ผู้มีจิตศรัทธา 4 ท่าน คือ 1.นายยงเกียรติ เกียรติศรีธารา 2.นายสุชาติ โชติวิทยะกุล 3.นายกำชัย ชีพชัยอิสสระ 4.นายสิงพร กายพันธุ์เลิศ ทั้ง 4 ท่านได้ร่วมกันซื้อที่ดินยกให้มูลนิธิฯ มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ สำหรับให้มูลนิธิฯใช้ก่อสร้างตั๊วถาวรขึ้น       

ต่อมาในปีพ.ศ. 2520 คณะกรรมการก็มีมติเป็นเอกฉันท์จัดการสร้างตั๊วใหม่  ในกลางปี พ.ศ. 2522 ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี  ทุกๆ 10 ปี มูลนิธิฯจะจัดพิธีเก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้า ซึ่งในปี พ.ศ.2560 จะมีพิธีเก็บศพไร้ญาติ ล้างป่าช้าครั้งที่ 6ซึ่งจะเริ่มวันที่ 9 มีนาคม 2560 เป็นวันทำพิธีปัดล้างมณฑลพิธีและตั้งเจ้าที่ 5 ธาตุ (อังโหงวโท้ว) และพิธีปลุกเสกผ้ายันต์ วันที่ 10 มีนาคม 2560 พิธีเชิญกระถางธูปโป๊ยเซียนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่ไปตามคลองดำเนินสะดวก ในวันนี้ชาวบ้านริมคลองดำเนินสะดวกจะตั้งโต๊ะเซ่นไหว้โป๊ยเซียนที่หน้าบ้าน เครื่องเซ่น ได้แก่ ผลไม้ น้ำชา กระถางธูป บางบ้านจะจุดประทัดเมื่อขบวนเรือของโป๊ยเซียนแล่นผ่าน   วันที่ 11 มีนาคม 2560 พิธีเชิญกระถางธูปโป๊ยเซียนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่ไปตามถนนและตลาดท่ารถ ตลาดหลักสาม วันที่ 13 มีนาคม 2560 พิธีเปิดงานเก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้า วันที่ 24 เมษายน 2560 พิธีเก็บล้างป่าช้าที่สุสานเม่งซวง วันที่ 26 เมษายน 2560 พิธีชำระล้างอัฐิผู้ไร้ญาติ วันที่ 29 เมษายน 2560 พิธีเชิญอัฐิผู้ไร้ญาติสู่เตาเจดีย์ วันที่ 30 เมษายน 2560 พิธีกงเต็ก  วันที่ 4 พฤษภาคม 2560 พิธีคำนับเซ่นทรวงดวงวิญญาติผู้ไร้ญาติ วันที่ 6 พฤษภาคม 2560 พิธีเก็บอัฐิบรรจุกระบุงเงิน กระบุงทอง  วันที่ 13 พฤษภาคม 2560 พิธีตอบแทนคุณท่านโป๊ยเซียนโจวซือ วันที่ 14 พฤษภาคม 2560 พิธีทิ้งกระจาด พิธีส่งเทวดาฟ้าดิน

กรรมการมูลนิธิแพร่ศีลธรรมการกุศลสงเคราะห์ อธิบายเกี่ยวกับพิธีล้างป่าช้าว่า

“พิธีล้างป้าช้าปี 2560 จะเริ่ม วันที่ 13 มีนาคม คือวันเปิดพิธี วันเปิดก็จะเชิญเจ้า มีร่างทรง เริ่มประมาณ 9 โมง มูลนิธิก็จะมีทั้งหมด 58 -59 แห่ง เวลามีอะไรก็จะช่วยเหลือกัน  เราก็ต้องบอกเขาก่อน จะมีมูลนิธิ ศาลเจ้าที่อื่นมาร่วมด้วย ประมาณ 60 ที่ อันนั้นคือศาลเจ้า เราก็จะไปเชิญเจ้าเขามา ตอนเก็บศพก็จะเป็นกระถางธูป แล้วตอนเดือน 12 จีน เขาจะมีงานตรงนี้ ก็ประมาณต้นเดือนมกราคม เขาจเรียกว่างานขอบคุณเทพเจ้า ก็จะมีพิธีไหว้เฉยๆ แต่ถ้างานใหญ่ก็คือวันที่ 13 มีนาคม เพราะ 10 ปีมีครั้งเดียว   ก่อนถึงวันที่ 13 ก็จะไปขอขี้ธูปแต่ละศาลเจ้ามา มาตั้งกระถางธูป ให้ประชาชนได้ไหว้ อันนี้คือเจ้า ส่วนพิธีการที่เก็บศพ ไม่ใช่วันที่ 13 จะต้องเลยไปประมาณ 4-5 วัน  วันที่ 13 ก็จะตั้งกระถางธูป เชิญ 8 เซียนเข้า งานนี่ระดับประเทศ ต้องเตรียมเป็นปี ถึงครั้งที่ 6 เราก็เริ่มรู้งานแล้วในบางส่วน บางส่วนเขาก็เสียชีวิตไปแล้ว คนที่รู้งานจริงๆก็ยังพอมีอยู่ สิ่งแรกคือเจ้าต้องกำหนดลงมาด้วย ว่าเราจะต้องทำอย่างไร ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านทำ กรรมการทำ มันก็อีกอย่างหนึ่ง แต่พิธีการตรงนี้เจ้าเป็นผู้กำหนด อย่างพิธีที่ว่าเจ้าจะกำหนดว่าให้เปิดวันนี้ แล้วปิดวันนี้     ที่นี่เป็นมูลนิธิที่เดียวในประเทศที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เพราะที่อื่นจะอยู่ในอำเภอ ในจังหวัด ที่นี่เป็นลำดับที่ 16 ของตระกูลเม้ง หมายถึงว่าคนแรกเขานับถือเป็นพี่   ตั๊ว(โรงเจ)แรกที่จัดเก็บศพครั้งแรกเขาก็จะนับถือเป็นพี่ ตั๊วแรกก็จะมาช่วยตั๊วที่สอง ก็ช่วยกันไปเรื่อยๆ เพราะทำครั้งแรกจะไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ต้องเชิญมาทำพิธีให้ เขาจะรู้พิธีการมากกว่า   ปีนี้คิดว่าจะแห่ทางเรือและทางบก จะแห่สองวัน แต่ก่อนจะแห่ทางเรือแล้วเอารถไปรอแล้วก็แห่ในตลาด วนตลาด  ชาวบ้านเขาก็ชอบ เขาจะตั้งผลไม้ไหว้ คล้ายๆกับการแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร” (สัมภาษณ์  26 ตุลาคม 2559)

มูลนิธิแพร่ศีลธรรมการกุศลสงเคราะห์ มีวิหารโป๊ยเซียนโจวซือหรืออี่เยี่ยงไท้ เป็นอาคาร 2 ชั้น สถาปัตยกรรมแบบจีน ชั้นล่างมีรูปเคารพ เทพเจ้าหลายองค์ ได้แก่ ซำเสี่ยฮุกโจ้ว ชั้นบน ได้แก่ โป๊ยเซียนโจวซือ หรือแปดเทพ ตามความเชื่อในลัทธิเต๋าของจีน แปดเทพเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือมาช้านาน นับเป็นหนึ่งในบรรดาเซียนนับร้อย ๆ องค์ของจีน  ในสังคมไทยเซียนทั้งแปดประกอบด้วย หลี่ขาเหล็ก, จงหลี ฉวน, พระมาตุลาเฉา, ปราชญ์หัน เซียง, นางฟ้าเหอ, หลัน ไฉ่เหอ, อาวุโสจัง กัว, และ ลหฺวี่ ต้งปิน  ในภาจีนกลาง  ฮกเกี้ยน กวางตุ้ง และจีนแต้จิ๋ว  ชื่อของเซียนทั้งแปดมีการเรียกแตกต่างกัน (ดูตารางข้างล่าง)   ชาวจีนเชื่อว่าเซียนทั้งแปดองค์นี้เป็นผู้อำนวยโชคลาภและความร่ำรวย ซึ่งแต่ละองค์มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แตกต่างกันไป

ในพิธีเก็บศพไร้ญาติและล้างป่าช้าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน โดยจะมีพิธีกรรมตามขั้นตอนหลายพิธี พิธีกรรมในช่วง 5 วันแรกจะจัดติดต่อกัน  ได้แก่  ในวันแรกจะเป็นการทำพิธีเชิญเทพเจ้าแปดเซียนมาประทับทรง เพื่อทำการล้างมณฑลพิธี (เจ้งโจ้ว) และทำพิธีตั้งเจ้าที่ 5 ธาตุ วันที่สองจะเป็นการทำพิธีปลุกเสกผ้ายันต์ วันที่สาม  ทำพิธีเชิญกระถางธุปของโป๊ยเซียนโจวซือทั้งแปดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแห่ไปตามลำคลองดำเนินสะดวก   วันที่สี่ ร่างทรงโป๊ยเซียนโจวซือทำพิธีตั้งแท่นบูชาฟ้าดิน ขึ้นโคมประทีป และปลุกเสกน้ำมนต์ ในตอนสายประธานในพิธีจะเปิดแพรคุมป้ายงานเก็บศพไร้ญาติ หลังจากนั้นผู้ร่วมงานจะเชิญกระถางธูปขึ้นประดิษฐานที่แท่นบูชา จากนั้นในช่วงเย็นจะมีการสวดเปิดมณฑลพิธี เชิญพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าต่างๆมาประทับในพิธี  วันที่ห้า ทำพิธีขึ้นธงดวงวิญญาณหน้ามณฑลพิธี เจิมของมงคล และกำหนดจุดสร้างเตาเจดีย์ 

หลังจากนั้นจะเว้นไปอีก 2 วัน จะเริ่มพิธีกรรมขั้นที่หก คือ พิธีเปิดอ่างน้ำมนต์ มีการแห่ขบวนโป๊ยเซียนโจวซือไปยังสุสาน เมื่อถึงสุสานแล้วจะทำพิธีเปิดป่าช้า อีกห้าวันต่อมาจะมีพิธีขั้นที่เจ็ด คือ พิธีเก็บล้างป่าช้าที่สุสาน วันรุ่งขึ้นจะมีพิธีเชิญดวงวิญญาณไร้ญาติเดินบนท้องถนนและคลองดำเนินสะดวก  วันต่อมาจะเป็นพิธีเชิญดวงวิญญาณไร้ญาติไปตามลำคลองบ้านแพ้ว ตอนเย็นจะเป็นพิธีปิดการขุดล้างป่าช้า  อีกสองวันต่อมาจะทำพิธีชำระล้างอัฐิผู้ไร้ญาติ วันต่อมาจะเชิญอัฐิผู้ไร้ญาติขึ้นสู่เตาเจดีย์ ช่วงเย็นจะเป็นการเชิญเทพโป๊ยเซียนโจวซือมาทำพิธีปิดล้างหอประกอบพิธีกงเต็ก  วันต่อมาในตอนค่ำจะเป็นพิธีกงเต็ก และเชิญดวงวิญญาณผู้ไร้ญาติและวิญญาณบรรพบุรุษข้ามสะพานโอฆสงสารทั้ง 7 ทวีป  วันต่อมาจะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ไร้ญาติและวิญญาณบรรพบุรุษข้ามสะพานโอฆสงสารทั้ง 7 ทวีป  เป็นครั้งที่สอง วันต่อมาในช่วงสาย เป็นการทำพิธีกงเต็ก และพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณ ในตอนค่ำจะทำพิธีแห่พยุหะกุมารทอง (เจ้ากิมท้ง เง็กนึ่ง อี่มัวก่ง)  อีกสามวันต่อมาจะทำพิธีคำนับเซ่นสรวงดวงวิญญาณผู้ไร้ญาติ ตอนบ่ายจะมีพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์สวดมาติกา ทอดผ้าบังสกุล และพิธีประชุมเพลิง

อีกสองวันต่อมา จะทำพิธีเก็บรวบรวมอัฐิธาตุใส่กระบุงเงิน กระบุงทอง วันต่อมาจะทำการหาบแห่อัฐิไปยังอนุสาวรีย์ ณ สุสานของมูลนิธิฯ เมื่อถึงสุสานจะทำการบรรจุอัฐิ  วันต่อมาจะเชิญท่านโป๊ยเซียนโจวซือ ประกอบพิธีแสวงหาน้ำทิพย์  วันต่อมาจะเชิญท่านโป๊ยเซียนโจวซือ ประกอบพิธีสรรหาใบชาทิพย์เพื่อบูชาคุณรัตนตรัยและเทพเจ้าทั้งหลาย  อีกสองวันต่อมาจะทำพิธีตอบแทนคุณเทวาฟ้าดิน คุณพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันต่อมา จะทำพิธีตอบแทนคุณท่านโป๊ยเซียนโจวซือ ตอนเย็นจะทำพิธีลอยกระทง เชิญธงแดงขึ้นเสา วันต่อมา ทำพิธีโยคะตันตระเปรตพลี หรือการเทกระจาด ตอนเย็นจะทำพิธีส่งเทวาฟ้าดิน พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าทุกองค์กลับพุทธภูมิ  ตอนกลางคืนจะทำพิธีขอบคุณเจ้าที่ 5 ธาตุ วันสุดท้าย จะทำพิธีเบิกทวารองค์อนุสาวรีย์ และพิธีคำนับเซ่นสรวงต่ออนุสาวรีย์

โรงเจของชาวจีน มีหน้าที่ทำงานงานการกุศล สงเคราะห์ช่วยเหลือคนยากจน ที่โรงเจของมูลนิธิแพร่ศีลธรรมการกุศลสงเคราะห์ก็เช่นกัน กรรมการมูลนิธิฯ อธิบายว่า

“การแจกทานเป็นกิจวัตรของเราอยู่แล้ว ที่ไหนเกิดอัคคีภัยก็ไปช่วย ผู้ยากไร้ที่ไม่มีโลงศพเขาก็มาขอได้ เราก็ช่วยเงินไปหน่อยหนึ่ง อย่างนักเรียนยากจนเราก็มีทุนให้เขา นี่สิ่งที่ต้องทำทุกปี ถามว่าค่าใช้จ่ายเยอะไหม มันก็เยอะ กรรมการนี่เข้ามาด้วยใจ มีบริจาคเงินบ้าง อย่างเก็บศพก็ลงทุนเยอะ ช่วยทั้งกาย ใจ เงินด้วย แล้วมูลนิธิจะเอาเงินที่ไหน มันมีแต่รายจ่าย ก็ต้องรับเงินบริจาค แต่รายรับก็มีบ้าง ถ้าเวลาจัดงานมีเงินเหลือเยอะ คราวที่แล้วครั้งที่ห้า ก็ซื้อที่ธนาคารกสิกรเปิดโรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาหลักห้า คือซื้อตึกกับที่ดินให้เขา  สร้างเพื่อให้คนที่ไม่ต้องเดินทางไกล ทุกวันนี้ที่บ้านแพ้วรับจากดำเนินสะดวกมา 20,000 กว่าคน เพราะตรงนี้มันเหมาะ ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลใหญ่ ไม่ต้องเดินทาไกล โรคผู้สูงอายุ ความดัน เบาหวาน เอายาที่ตรงนี้ เราก็มีหมอประจำทุกวันอยู่แล้ว ก็ซื้อตรงนี้ คือมีผลประโยชน์ตกที่คนท้องถิ่น” (สัมภาษณ์  26 ตุลาคม 2559)


ประเภท ศาลเทพเจ้า
ศาสนา พุทธ
นิกาย/ลัทธิ มหายาน
คำสำคัญ จีน,จีนแต้จิ๋ว,จีนคลองดำเนินสะดวก
รูปแบบลิขสิทธิ์ อ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า (CC-BY-NC)

บรรณานุกรม

รายงานวิจัย เรื่องชุมชนกับความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
ผู้แต่ง นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
ปัณวัฒน์ ผ่องจิต
ชื่อหนังสือ/วารสาร รายงานวิจัย เรื่องชุมชนกับความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
ปีที่พิมพ์ 2560

รูปภาพ

close