ศาลเจ้าพ่อสำเร็จ โรงเจไท้เอ็กตั๊ว

ศาลเจ้าพ่อสำเร็จ โรงเจไท้เอ็กตั๊ว

เผยแพร่เมื่อ: 7 เมษายน 2565 | 

ปรับปรุงแก้ไขเมื่อ: 8 เมษายน 2565

ที่ตั้งตามการปกครอง ตำบลหนองสองห้อง อำเภอบ้านแพ้ว
ละติจูด 13.568448
ลองจิจูด 100.058724
รายละเอียดศาสนสถานและศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ศาลเจ้าพ่อสำเร็จตั้งอยู่ริมคลองเจริญยิ่ง ห่างจากคลองดำเนินสะดวกเข้ามาตามคลองเจริญยิ่งประมาณ 200 เมตร ใน ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร มีอายุเก่าแก่ราว 100 ปี พื้นที่บริเวณนี้มีชาวจีนแต้จิ๋วเข้ามาตั้งถิ่นฐานและเพาะปลูกผักผลไม้ ประวัติของศาลเจ้าพ่อสำเร็จเกี่ยวข้องชีวิตของนายจื้อ ตั้งนาวา เป็นคนจีนแต้จิ๋ว ซึ่งในสมัยวัยรุ่น นายจื้อเคยหมดสติไปเจ็ดวัน ซึ่งญาติพี่น้องคิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ฟื้นกลับขึ้นมาใหม่  โดยนายจื้อบอกว่าได้รับการติดต่อจากเจ้าพ่อสำเร็จให้รับเป็นร่างทรงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วย เมื่อนายจื้อเป็นร่างทรงแล้วก็เริ่มสร้างรูปปั้นเจ้าพ่อองค์เล็กในท่านั่งสมาธิ มือขวาถือธง มือซ้ายกำมือและชี้นิ้วไปข้างหน้า พร้อมสร้างศาลขึ้นมา  เดิมเป็นศาลไม้เล็กๆ และปรับปรุงแก้ไขจนกลายเป็นศาลขนาดใหญ่ ชาวบ้านในพื้นที่จะมาขอให้นายจื้อเข้าทรงเจ้าพ่อสำเร็จเพื่อให้ช่วยรักษาโรค บอกชื่อยาสมุนไพรเพื่อนำไปปรุงกินรักษาอาการเจ็บป่วย เมื่อหายป่วยก็จะกลับมาบริจาคเงินเพื่อปรับปรุงศาลเจ้าและสร้างโรงเจในปี พ.ศ.2502 เมื่อชื่อเสียงของเจ้าพ่อสำเร็จแผ่ขยายออกไป คนต่างถิ่นทั้งพ่อค้า ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็จะเดินทางเข้ามาให้เจ้าพ่อช่วยเหลือ โดยเฉพาะขอให้ได้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และประสบความสำเร็จในการทำมาหากิน การทำธุรกิจ ค้าขาย และอาชีพการงานต่างๆ

ลูกชายของนายจื้อ เล่าว่า

“สมัยก่อนท่านจะมีชื่อว่า เจ้าพ่อสำเร็จสุขลา ก็คือ สุข แล้วก็ ลา คือความหมายของท่านก็คือลูกหลานมีสุขแล้วก็ต้องลาจาก ทีนี้องค์ที่มาต่อจากท่านที่เป็นลูกศิษย์ของท่านก็ตัดเอาคำว่า สุขลา ออก ก็เหลือแต่เจ้าพ่อสำเร็จ  พอท่านลงมาใหม่ก็เอาสองคำหลังออก เพราะท่านบอกแต่แรกแล้วว่านามท่านไม่เปิดเผย เต็มที่ก็เรียกได้แค่ องค์ 1 องค์ 2 องค์ 3 องค์ 4 ได้แค่นี้ แต่ในนามของโรงเจก็หลวงพ่อสำเร็จนี่ กว่าท่านจะมาได้ ท่านไม่รับปาก เพราะท่านบอกว่าในเมืองมนุษย์มันลำบาก แล้วมนุษย์ปลิ้นปล้อน  เทพเลยไม่อยากมาในเมืองมนุษย์   ลูกศิษย์เขามาครั้งแรกก็อยากจะได้เห็นรูปจำลองของท่าน ทีนี้ท่านก็บอกกับคนที่ปั้น ซึ่งเป็นคนจีนโบราณ เป็นช่างแล้วก็รับจ้างทำสวนสมัยก่อน เมื่อก่อนช่างปั้นยังไม่มี จะเป็นช่างไม้ส่วนใหญ่ แต่ทีนี้ท่านบอกว่าไปนั่งสมาธิในห้องเงียบๆมืดๆ เดี๋ยวจะปรากฏภาพให้เห็นตามนั้นแล้วกัน พอเขานั่งสมาธิเสร็จ เขาก็บอกท่านว่าเห็นแล้ว จำไว้ ท่านก็ให้เห็นแค่ครั้งเดียว แล้วก็ปั้น 3 องค์”(สัมภาษณ์ 24 กุมภาพันธ์ 2560)

“คุณพ่อผมท่านเป็นร่างทรง  ท่านทรงตั้งแต่อายุ 17 จนตอนนี้จะ 80 แล้ว  แกสลบไป 7 วัน เหมือนกับตายไปแล้ว 7 วัน พอดีช่วงนั้นปู่กำลังจัดงานศพอากง แล้วทีนี้ลูกดันมาตายอีก ก็เลยเอาศพไปซ่อนไว้หลังบ้าน จากนั้นก็ฟื้นขึ้น เจ้าเข้า องค์ท่านเข้ามาก็บอกว่าจะมารักษาคน  รักษาคนมาเยอะ หายเยอะ เราก็เจอกับตัวเองหลายรอบ เรื่องอุบัติเหตุ เรื่องรถ แต่มีผ้ายันต์ท่านติดตัว ลูกสาวเมื่อ 2 ปีที่แล้วรถยนต์ไปชนกับรถ 18 ล้อ รถนี่ขายซากไปได้ 1 แสนกว่าบาท รถนี่แบนเลย แต่ตัวลูกไม่เป็นอะไรเลย แล้วท่านจะบอกว่าปีนี้มีเคราะห์นะ อย่าไปไหนให้อยู่กับบ้าน เรื่องแคล้วคลาดนี่สุดยอดเลย แล้วก็ทำมาหากิน คนที่จะมาหาท่านเนี่ย ถ้าไม่ดูแลพ่อแม่ ท่านบอกว่าไม่ต้องมาหาหรอก ต้องไปดูแลพ่อแม่ให้ดีก่อน   จากนั้นก็รักษาคนเป็นแสนคน วันหนึ่งคนมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า เลิก 4 ทุ่ม ประทับทรงนะ ไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย  อยู่ได้ไงไม่รู้ทรงแบบนั้นประมาณ 20 กว่าปี   เดี๋ยวนี้ เข้าทรงวันอาทิตย์ เดือนละครั้ง วันชิวอิกจีน (วันพระจีน) ไม่ค่อยทรงนานเท่าไหร่แล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็เลิก  อายุเยอะแล้ว  ท่านทรงแล้วก็หลับตา แล้วก็เคี้ยวหมากตลอดเวลา แล้วก็กลืนเข้าไป ไม่มีคาย  ที่นี่มีหลายองค์ เจ้าพ่อเขาเขียว เจ้าพ่อลิงลม อย่างเจ้าพ่อลิงลมพอเข้าทรงแล้วตีลังกา เตี่ยอายุ 80 ยังตีลังกาอยู่เลย เกาจนตัวแดงเลย แล้วก็ทรงหลายร่าง แล้วเสียงก็เปลี่ยนไปด้วย หลับตาตลอด ไม่มีลืมตาเหมือนที่อื่น  ชาวบ้านจะมาให้ช่วยรักษาโรค สมัยก่อนไม่มีโรงพยาบาลเพราะมันมีน้อย คนก็จะเอาเด็กมากวาดยาบ้าง บางคนโรงพยาบาลผ่าท้องมา ให้ไปตายที่บ้าน ความหวังสุดท้ายลองมาเสี่ยงดูที่โรงเจ พายเรือมาประมาณ 2 วัน กว่าจะมาถึงนี่ เพราะเมื่อก่อนนี้รถมาไม่ถึง ก็รักษาด้วยสมุนไฟร ทั้งทา ทั้งกิน ก็หายเยอะนะ โรควัณโรคมารักษาที่นี่หาย แล้วโรคดีซ่านก็หาย   เราก็เขียนเป็นใบยาให้เขาไปซื้อ แล้วก็มีผ้ายันต์ประทับตรา แล้วก็นำยันต์นี้ลงไปต้มด้วย ส่วนใหญ่เขาเชื่อกัน เพราะทำแล้วหาย เรารักษาไม่ได้เรียกร้อง” (สัมภาษณ์ 26 ตุลาคม 2559)

"ปัจจุบันพ่อก็ยังทรงอยู่ ตอนนี้ก็น่าจะทรงองค์ที่ 4 ท่านจะสลับกันมา เพราะแต่ละองค์จะมีวาระของท่าน ลงมาแล้วอยู่กี่ปี แล้วก็จะกลับ แต่ว่าก็ยังใช้ร่างเดิม ของที่นี่คนทรงเขาไม่เปลี่ยน เคยขอเขาแล้วว่าตอนนี้คนทรงอายุเยอะแล้ว ขอเปลี่ยนได้ไหม เขาไม่ให้เปลี่ยน ท่านบอกว่าจนกว่าชีวิตจะหมดวาระ  ตอนนี้ทูตในร่างก็เหลือ 3 อีกทูตไม่อยู่ แล้วเวลาท่านทรงก็จะไม่ลืมตา จะหลับตาตลอด สิ่งที่เราขอ เราก็ได้หมด เพราะตอนนี้เรามาตอบแทนท่าน เพราะสิ่งที่เราขอเราได้ไปหมดเกือบทุกอย่าง อย่างเราว่างเราก็จะแวะมา เป็นกรรมการฝ่ายแนะนำดูแลแขก ก็จะมาดูแลตรงนี้ อย่างที่เราเห็นหลวงพ่อสำเร็จเนี่ย ท่านก็จะสอนให้เราทำความดีทุกอย่าง ถ้ามาอยู่ในนี้ก็จะรู้ว่าที่นี่ไม่มีผลประโยชน์อะไรทั้งนั้น แล้วทุกคนที่หยอดเงินในตู้ที่นี่ไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็จะเกิดบุญ เพราะว่าเงินที่ท่านหยอดก็เอาไปปลดหนี้ เพราะว่าโรงเจไม่เคยมีตังค์เหลือ มีคนออกเงินตรงนี้ให้กับท่าน 40 ล้าน ท่านไม่รับ ท่านบอกว่ามันไม่ได้ จะช่วยเท่าไหร่ก็บอกมา คนอื่นที่มาจะได้ร่วมทำบุญ ก็จะได้เป็นการปลดหนี้ ถ้าเกิดว่าเอาเงินไปไว้ในธนาคาร 30 ปีตายไป บุญมันก็ไม่เกิด เงินมันก็อยู่ในแบงค์ มันไม่ได้ใช้ ท่านก็จะบอกมาแบบนี้นะ 1 บาทก็ได้บุญแล้ว  ท่านสอนให้ทุกคนคิดดี ทำดี ลูกศิษยที่นี่ต้องคิดดีทำดี ทุกคนต้องเท่าเทียมกันหมด พลเอกมาขึ้นที่นี่เพียบ แต่มาในที่นี่ต้องเท่าเทียมกัน เพราะท่านสอนเสมอว่าทุกคนตายแล้วก็เหม็นทุกคน มาอย่างไรกลับไปแบบนั้น มีอย่างเดียวคือความดีที่เราสะสมและสร้างไว้” (สัมภาษณ์ 24 กุมภาพันธ์ 2560)

ในปี พ.ศ. 2558 ได้มีการหล่อรูปเหมือนองค์เจ้าพ่อสำเร็จองค์ใหญ่สูง 99 นิ้ว ประดิษฐานบนศาลเจ้าพ่อสำเร็จ เปิดให้ประชาชนได้มากราบขอพร เจิมหน้าผากเปิดดวง โดยนำหน้าผากไปแตะกับนิ้วชื้ของเจ้าพ่อและอธิษฐานขอให้สมหวังและประสบความสำเร็จ   ในปี พ.ศ.2559 มีการปลุกเสกเจ้าพ่อสำเร็จขนาดบูชา 9 นิ้ว โดยร่างทรงจะเชิญเจ้าพ่อสำเร็จมาประทับร่างเพื่อทำพิธีปลุกเสก ในวันที่ 15 กันยายน ปี พ.ศ. 2559 ตรงกับวันไหว้พระจันทร์  โรงเจไท้เอ็กตั๊ว ศาลเจ้าพ่อสำเร็จได้ทำพิธีบวงสรวงใหญ่ อัญเชิญองค์เจ้าพ่อกวนอู (เทพเจ้าแห่งชัยชนะและความซื่อสัตย์) องค์ใหญ่ที่สุด สูง 9 เมตร ประดิษฐานบนหลังคาของศาลเจ้า ถือเป็นรูปปั้นเจ้าพ่อกวนอูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

ลูกชายร่างทรงอธิบายว่า

“รูปปั้นกวนอูนี่สร้างที่นครปฐม สร้างประมาณ 2 ปีถึงจะเสร็จ ใช้เครน 100 ตัน ขนมา   เจ้าพ่อกวนอูเป็นเทพเจ้าแห่งชัยชนะ คือเทพเจ้าที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ก็จะชนะ แล้วก็ความซื่อสัตย์ ท่านมีความซื่อสัตย์ สิ่งที่ไม่ดีจะได้ไม่เข้ามา แล้วคนที่ชอบเสี่ยงดวงก็มาขอพรได้ เพราะว่าไปรบแล้วก็ชนะเมื่อเดือนที่แล้ว (กันยายน 2559) มีพวกนายทหารประมาณ 50-60 คนมา พลเอกหลายสิบคน” (สัมภาษณ์ 26 ตุลาคม 2559)

นอกจากนั้น โรงเจไท้เอ็กตั๊วยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายชนิด ได้แก่  เจ้าแม่กวนอิม, ฮก ลก ซิ่ว, พระพุทธรูป, พระสีวลี, ศาลทีกง ฟ้าดิน, พระแม่ธรณีบีบมวยผม, พระพิฆเณศวร์, เทพเจ้าเต่า และ รูปจำลองพระเกจิอาจารย์ ชื่อดังของเมืองไทย 9 รูป บริเวณชั้นล่างของศาลเจ้าจะมีห้องพักประมาณ 30 กว่าห้องสำหรับผู้มีมาปฏิบัติธรรมถือศีลกินเจ ด้านข้างศาลมีศาลายิ่งดี เป็นอาคารเอนกประสงค์ใช้สำหรับจัดงาน ผู้ที่จะมาใช้สถานที่จัดงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากบริจาคเงินตามกำลังศรัทธา  ในช่วงเดือนตุลาคม โรงเจไท้เอ็กตั๊วจะจัดงานถือศีลกินเจ มีการสวดมนต์เย็น พิธีไหว้ซาลาเปา  การเดินธูป  พิธีเผาส่งเสื้อผ้าให้เจ้าพ่อฮุกโจ้   ในช่วงเดือนธันวาคม ศาลเจ้าจะจัดงานแซยิดเจ้าพ่อสำเร็จ และในเดือนมีนาคมจะจัดงานประจำปีเป็นเวลา 3 วัน มีการปิดทองเจ้าพ่อสำเร็จ มีการแจกทาน ข้าวสารและของรางวัลมากมาย รวมทั้งการแสดงมังกรและงิ้ว  นอกจากนั้น โรงเจไท้เอ็กตั๊ว ยังจัดทำผ้ายันต์องค์เจ้าพ่อสำเร็จและเจ้าพ่อกวนอู รุ่นชนะลูกเดียวสำเร็จทุกเรื่อง แจกให้กับประชาชนที่มาไหว้

ลูกชายร่างทรงอธิบายการทำประโยชน์ของโรงเจว่า

“เป้าหมายของที่นี่คือเป็นโรงทาน มีการแจกข้าวสาร มีแจกพันธุ์ไม้ เช่นคนมีคันนาอยู่ โรงเจก็จะไปจัดให้บ้านนี้สัก 20 กิ่ง ปลูกแล้วก็ตอนไปขยายพันธุ์ต่อ ก็จะมีพันธุ์ไม้หลายพันธุ์ส่วนใหญ่เป็นผลไม้ดีๆ  คือโรงเจสร้างมาแล้วต้องทำประโยชน์กับสังคม ไม่ใช่สร้างมาแล้วไม่มีประโยชน์ต่อสังคม ท่านก็สั่งมาแบบนี้ บางครั้งก็ไปเขาบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ไปที่กันดารๆ เอาของไปแจก   ตอนกินเจคนเต็มไปหมด รถเต็มไปหมดที่นี่ อาหารที่นี่กินทั้งวันทั้งคืน ผัก 25 ตัน วันอาทิตย์วันเดียว ซื้อมาจากตลาดศรีเมือง ต้องเอาหกล้อเข้ามา 2 คัน (สัมภาษณ์ 26 ตุลาคม 2559)

ประเภท ศาลเทพเจ้า
ศาสนา พุทธ
นิกาย/ลัทธิ มหายาน
คำสำคัญ จีน,จีนแต้จิ๋ว,จีนคลองดำเนินสะดวก
รูปแบบลิขสิทธิ์ อ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า (CC-BY-NC)

บรรณานุกรม

รายงานวิจัย เรื่องชุมชนกับความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
ผู้แต่ง นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
ปัณวัฒน์ ผ่องจิต
ชื่อหนังสือ/วารสาร รายงานวิจัย เรื่องชุมชนกับความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
ปีที่พิมพ์ 2560

รูปภาพ

close