ศาสนสถานและศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์

12 แห่ง

ผลการค้นหา : 12 แห่ง

ศาลพ่อปู่คลองตาปลั่ง อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลพ่อปู่คลองตาปลั่ง ตั้งอยู่ริมคลองตาปลั่ง ต.บ้านแพ้ว ซึ่งเป็นชุมชนชาวมอญ เป็นศาลสองศาลอยู่คู่กัน สร้างเมื่อใดไม่ปรากฏ ลักษณะศาลเป็นศาลาทรงไทยหน้าจั่ว แต่ละศาลกว้างประมาณ 1 เมตร สภาพปัจจุบันค่อนข้างรกไม่เป็นระเบียบ ภายในศาลมีพระพุทธรูป รูปปั้นช้าง รูปปั้นรัชกาลที่ 5 รูปปั้นงู

ศาลพ่อปู่เทพา อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลพ่อปู่เทพาตั้งอยู่ในวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม ตำบลหลักสาม ซึ่งเป็นชุมชนชาวมอญ ลักษณะศาลสร้างด้วยไม้สักทรงไทย ยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตร มีบันไดพาดด้านหน้า บนศาลมีรูปปั้นพ่อปู่โพกผ้าสีแดง วางอยู่บนแท่นบูชา รวมทั้งรูปเคารพอื่นๆ เช่น รูปปั้นเทวดา พระพิฆเนศ พระพรหม กุมารทอง ฯลฯ ชาวบ้านมักจะมากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภแต่เดิมศาลพ่อปู่เทพาตั้งที่อยู่ริมคลองดำเนินสะดวก แล้วย้ายมาสร้างใหม่ข้างโบสถ์เก่าของวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม มีเรื่องเล่าว่า เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ศรัทธากะยารามองค์เก่าไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางเทวดา จึงสั่งให้เผาศาลทิ้ง จนทำให้เจ้าอาวาสมีอันเป็นไปและมรณภาพลง  เจ้าอาวาสองค์ใหม่จึงสร้างศาลขึ้นมาใหม่ (หลังปัจจุบัน) ในปี พ.ศ.2545  อยู่บริเวณข้างเมรุเผาศพ  เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม เล่าประวัติของศาลพ่อปู่เทพาว่า “ตอนนั้นฉันซ่อมโบถส์เก่า เป็นไม้สักทั้งหมดเลย จะทำใหม่แล้วยกดีดขึ้นมาเป็นสองชั้น เผอิญว่าศาลมันอยู่ข้างๆโบถส์เก่า มันเกิดที่เขา เราก็จะขยายทำบ่อล้อมรอบ ศาลดั้งเดิมก็เป็นศาลไม้เล็กไม่ใหญ่ ทีนี้เขาก็รู้เข้า ก็เข้าร่างโยม ก็มาเรียกเราไป ก็ปูอาสนะให้เรานั่ง เราก็ถามว่า ปะโหนก ฉันจะทำโบถส์ให้ดีขึ้น ซ่อมให้ดีขึ้น แล้วก็เป็นสองชั้น เขาก็บอกว่า ท่านย้ายฉันมา 5 ครั้งแล้ว เผามาแล้ว 1 ครั้ง เราก็บอกว่าย้ายมาตั้งแต่รุ่นไหน ฉันไม่ได้เป็นคนย้าย เพราะแต่ก่อนเขาอยู่ริมคลอง แล้วมัคทายกเก่าๆก็ย้ายมา แล้วมีเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 หลวงพ่อต่วน เจอศาลเจ้าที่ไหนเฮี้ยนๆ ท่านให้ลูกศิษย์ประชุมเพลิงซะ เผาเลย สมาธิท่านแกร่งกล้า ไม่มีปัญหา ทีนี้มันมีปัญหาคือที่วัด คงจะให้ลูกศิษย์ไปเผา มันมีหมูตายอยู่ตัวหนึ่ง ฉันก็ยังเกิดไม่ทันนะ ก่อนปี 2500  ก็หมูมันหล่นมาเจอเรือโยงก็เอามาเลี้ยง ตอนหลังมันตาย หลวงพ่อก็เลยให้เผาหมูด้วย เผาศาลด้วย ลูกศิษย์ตายไป 2 คน แล้วตอนหลังท่านก็พลาดพลั้งป่วย เขาก็เล่นงาน  พ่อปู่ก็เอาจนตายเหมือนกัน  ร่างทรงก็บอกว่า เนี่ยเผาชั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เราก็บอกว่าเราไม่ได้เป็นคนเผา คนที่เผาเขาตายไปหมดแล้ว ยังจะมาเอาเวรเอากรรมกันอีกหรือ เขาบอกว่าเขาไม่ยอม เขาอยู่มาเป็นพันปี   เราก็ถามว่าอยู่เป็นพันปีนี่อยู่ที่ไหน เขาก็บอกว่าอยู่บนยอดหญ้า มันก็มีเทวดาบนยอดหญ้า พระอานนท์เกิดเป็นเทวดาบนยอดหญ้า อยู่วิมานบนยอดหญ้า ก็ตรงกับพระสูติ ฉันก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะทำการย้ายให้ใหม่ จะขอใช้ที่ เขาก็บอกว่าไม่ว่าหรอกนะถ้าย้ายใหม่ แต่ขอเป็นไม้สักทั้งหลัง เราก็ทำให้ละกัน คนเขามาขอหวยกันบ่อย ถึงเราเชื่อยากแต่ก็ไม่ลบหลู่ ต่างคนต่างอยู่ แผ่เมตตาให้ ก็เคยนะมีพระที่วัดสวดปาติโมกข์ บางทีก็มากระตุกขาหลวงตา ก็มีการเข้าทรงถามว่ามากระตุกขาทำไม เขาก็บอกว่าท่านสวดปาติโมกข์ได้บุญเยอะ ท่านไม่แผ่เมตตาให้เราหน่อยเหรอ ทวงบุญคุณกันอีก มาขอบุญกุศล คนผ่านไปผ่านมาก็บีบแตรข้างถนน พวกนาคมาบวชก็ต้องมาขอขมาเขา แล้วโยมเวลาเขามาเลี้ยงก็จะให้สำหรับหนึ่ง คาว หวาน” (สัมภาษณ์ 14 ธันวาคม 2559)

ศาลพ่ออ้น พ่อจันทร์ พ่อจุก อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลพ่ออ้นพ่อจันทร์พ่อจุก ตั้งอยู่ริมคลองเจ็ดริ้ว ในชุมชนชาวมอญ ตัวศาลเป็นอาคารไม้หลังคามุงกระเบื้อง ภายในศาลมีแท่นบูชา มีรูปปั้นฤาษีและตุ๊กตานางรำวางอยู่ มีผ้าสีแดงห้อยอยู่บนคานพร้อมกับพวงมาลัย ในช่วงเดือนสามและเดือนเก้าจะมีการทำบุญบริเวณศาล ช่วงสงกรานต์จะมีการเช่นไหว้เจ้าพ่อ

ศาลพ่อเอี่ยม พ่อทุ่ง อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลพ่อเอี่ยม พ่อทุ่ง ตั้งอยู่ริมคลองพาดหมอน ตำบลเจ็ดริ้ว ซึ่งเป็นชุมชนชาวมอญ ตั้งศาลแห่งนี้มามากกว่า 100 ปี แต่เดิมเป็นศาลเล็กๆหลังคามุงด้วยจาก อยู่กลางทุ่งนา มีเจ้าพ่อทุ่งอยู่องค์เดียว ต่อมาปรับปรุงสร้างด้วยไม้หลังคามุงกระเบื้อง ยกพื้นสูงประมาณ 2 ฟุต ภายในศาลจะมีแท่นบูชา แจกันดอกไม้ พวงมาลัย ป้ายชื่อศาลพ่อทุ่งและศาลพ่อเอี่ยมติดอยู่บนเสา และได้เชิญเจ้าพ่อเอี่ยมให้มาอยู่ที่ศาลนี้ด้วย ชาวมอญที่จะบวชจะต้องมาขอขมาเจ้าพ่อ โดยการนำแตรมาเปาที่ศาล 1 เพลง ปัจจุบันร่างทรงพ่อทรงเป็นหญิงวัย 40 ปี ร่างทรงพ่อเอี่ยมเป็นหญิงวัย 70 ปี งานประจำปีของศาลพ่อเอี่ยมพ่อทุ่งจะจัดในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ชาวบ้านจะนิมนต์พระมาสวดมนต์และถวายภัตตาหาร

ศาลพ่อเอี่ยม พ่ออุ่น อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลพ่อเอี่ยมพ่ออุ่น เป็นศาลของชาวมอญ อายุกว่า 100 ปี แต่เดิมสร้างกลางทุ่งนา หลังคามุงหญ้าคา ต่อมาได้พัฒนาปรับปรุงเป็นศาลไม้หลังคามุงกระเบื้อง กว้างประมาณ 8 เมตร ภายในศาลมีรูปปั้นพ่อเอี่ยม พ่ออ้น วางอยู่บนแท่นสูงประมาณ 1 ฟุต  ปัจจุบัน ศาลตั้งอยู่ในเข ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นรอยต่อติดต่อกับต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

ศาลเจ้าที่วัดเจ็ดริ้ว อำเภอบ้านแพ้ว

ตั้งอยู่ด้านข้างหรือด้านทิศตะวันออกของเจดีย์วัดเจ็ดริ้ว ริมคลองเจ็ดริ้ว เป็นศาลใหม่ ลักษณะเป็นศาลไม้แบบเรือนพื้นถิ่น บนพื้นปูกระเบื้อง ล้อมรอบด้วยราวสแตนเลส ภายในมีรูปปั้นชายแก่นั่งชันเข่าข้างหนึ่ง ใส่ชุดขาว ผมขาว หน้าศาลมีรูปปั้นช้างและม้า ไม่ทราบประวัติการสร้างศาลดั้งเดิมที่แน่ชัด มีเพียงเรื่องเล่าว่ามีศาลบริเวณนี้มาแล้วมากกว่า 100 ปี 

ศาลเจ้าพ่อต้นตาล อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลเจ้าพ่อต้นตาล ตั้งอยู่ริมคลองตาขำ ต.สวนส้ม  มีอายุประมาณ 100 ปี แต่เดิมเป็นศาลเล็ก ๆ อยู่ริมคลอง ต่อมาย้ายเข้าไปสร้างในที่ใหม่ห่างจากเดิมเล็กน้อย ศาลกว้างประมาณ 2 เมตร สร้างด้วยไม้  ชายหนุ่มที่จะบวชจะต้องมาลาเจ้าพ่อที่ศาลนี้ ปัจจุบันศาลค่อนข้างมีสภาพทรุดโทรม

ศาลเจ้าพ่อพาหล อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลเจ้าพ่อพาหล ตั้งอยู่ริมคลองตาขำ ต.อำแพง ในชุมชนชาวมอญ มีอายุประมาณ 100 ปี แต่เดิมเป็นศาลเล็กๆ หลังคามุงจาก อยู่ใต้ต้นสะแก  ชาวบ้านจะมาตัดต้นสะแกแล้วนำไปฝนเป็นยา  ต่อมาปรับปรุงให้มีขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 2 เมตร ฝาผนังสร้างด้วยปูนหลังคามุงกระเบื้อง ภายในมีแท่นบูชา มีรูปเคารพต่างๆ ได้แก่ เจ้าพ่อพาหลนุ่งโจงกระเบนสีแดง มือขวาถือดาบ  พ่อปู่สมิงพราย เจ้าพ่อพวงมาลัยนุ่งขาวห่มขาว หลวงพ่อชินราช รูปปั้นช้างขนาดต่างๆ ชาวบ้านจะมากราบไหว้ขอพรและโชคลาภ เมื่อได้ตามคำขอ จะมาแก้บนด้วยหัวหมู ไก่ พวงมาลัย  ชายหนุ่มที่จะบวชจะต้องมาลาเจ้าพ่อที่ศาลนี้ และมีการจัดงานประจำปีไหว้เจ้าพ่อในช่วง 9 ค่ำ เดือนหก พร้อมกับการประทับทรง แต่ปัจจุบันคนทรงเสียชีวิตไปแล้ว

ศาลเจ้าพ่อล่องหน อำเภอบ้านแพ้ว

ศาลเจ้าพ่อล่องหนตั้งอยู่หน้าวัดเจ็ดริ้ว บริเวณริมคลองเจ็ดริ้ว ซึ่งเป็นชุมชนชาวมอญ สร้างขึ้นโดยนางเก็กเช็ง เมื่อ พ.ศ.2453 แต่เดิมศาลนี้อยู่เชิงสะพานริมคลองเจ็ดริ้ว ต่อมาย้ายไปอยู่ในสวนของชาวบ้าน แต่การเดินทางเข้าไปที่ศาลยากลำบากจึงย้ายมาอยู่ในบริเวณหน้าวัดเจ็ดริ้วศาลสร้างด้วยไม้กว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร ภายในมีแท่นบูชาพระพุทธรูป ตุ๊กตาฤาษี ตุ๊กตานารำ ตุ๊กตาจระเข้ พร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้ ได้แก่ ดอกไม้ ธูปเทียน น้ำแดง ขนม มะพร้าว ฯลฯ    บริเวณหน้าศาลมีต้นไทรขนาดใหญ่ ชาวบ้านจะนำสิ่งของมาแก้บน เช่น ชุดไทย และผูกผ้าสีรอบต้นไทร ในช่วงวันที่ 15 เดือนเมษายน จะมีการจัดพิธีเซ่นไหว้เจ้าพ่อล่องหนประจำทุกปี และมีพิธีทำบุญในช่วงเดือนสามและเดือนเก้า ชาวมอญที่จะบวชจะต้องมากราบลาเจ้าพ่อที่ศาลเพื่อเป็นศิริมงคลร่างทรงเจ้าพ่อล่องหน เป็นหญิงวัยกลางคน ได้ประทับทรงเจ้าพ่อล่องหน อธิบายประวัติของเจ้าพ่อว่า “พ่ออยู่มา 4 ชั่วอายุคนนะ ร่างของพ่อคนนี้คือคนที่ 4 พ่ออยู่มาดึกดำบรรพ์ แถวนี้เป็นป่าเป็นเขา ต้นไม้ใหญ่ เขาถางกัน แบ่งเนื้อที่ ใครตัดเยอะก็ได้เยอะ สมัยก่อนเป็นนา เป็นท้องนา เขาทำศาลให้พ่อ มุงหญ้าคา ทำจากไม้ฟาก ใหญ่กว่าศาลพระภูมิหน่อย  ที่นี่ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวมันก็โดน ไม่ต้องไปบอกมันหรอก แค่มันบวชแล้วไม่สมา แค่นั้นก็เห็นผลแล้ว รุ่นหลังใครจะบวชต้องไปรับร่างข้ามา เวลาจุดธูปกลางแจ้ง กลางแจ้งนี่มีความหมายนะ แบ่งให้เจ้าแม่ธรณี เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าดั้งเจ้าเดิม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิต  ญาณที่รับรู้มาโมทนาด้วยกัน แม้แต่เทพเบื้องบน ไม่ใช่อยู่ๆไปจุด เจ้าของที่แต่ละที่มันเฮี้ยน โคกบ้าน โคกเรือน โคกสวน โคกนา เจ้าของบ้านเขาเรียกไม่ถูก ให้เชิญร่างไป อาศัยพ่ออยู่ด้วย พ่อก็เรียกมาให้หมด จะได้ทำถูกในงาน แล้วเจ้าของที่เจ้าของทางเขาไม่ได้ผุดได้เกิด เขารอส่วนบุญ ให้เจ้าภาพเรียกถูกได้แบ่งบุญให้เขา พ่อมีหน้าที่แค่นี้ รุ่นที่ 3 เป็นแม่ครัว พอเขาตั้งเครื่องไตรกลางแจ้ง ไม่ทันเจ้าของบ้านเรียก ร่างข้าก็ทิ้งหมด ตะหลิว กระทะให้มันไหม้อยู่บนเตานั่นแหละ ข้าก็มา แต่ร่างของข้าคนนี้(ปัจจุบัน) ถือว่าเขามีบุญ รูปร่างอาจจะไม่สวย แต่จิตใจงาม เขาเป็นคนที่ไม่ชอบรำ รำไม่เป็น รำแล้วอาย รำไปแล้วเที่ยงคืนตีหนึ่งนอนไม่หลับ สภาพพ่อสิงสถิตตอนรำมันเป็นแบบไหน อายเขา แล้วเขาก็ด้วยสติปัญญา บุญบารมีเชา เขาบอกพ่อมารำอยู่อย่างนี้ไม่ได้หรอก ใครมาดู มาขอความช่วยเหลือ วางค่าครู 12 บาท เขาก็รวมๆไว้ ได้เงิน 24 บาท ก็รวมไว้ ทีนี้พี่ชายเขาก็บวชหลาน เขาก็เอาเงินที่รวมไว้ไปเข้าไตรกับพี่ชายเขา เขาก็บอกว่าอย่าเก็บไว้ เอาไปให้ร้านเจ็กร้านจีนไปเลย กว่าจะถึงงานค่าไตรได้แค่นั้นเอง พอรวมได้อีกอันนี้ถวายพระอุปปัชชาย์ พอไม่มีก็บวชไม่ได้ พอรวมได้อีกหน่อย เขาบอกว่าอันนี้ฉลองพระใหม่นะ อันนี้โปรยทานนะ เวลากรวดน้ำคือบ้านลูกหลานเขาเองใช่ไหม เขามีสิทธิ์เต็มที่ เขากรวดน้ำเขาเรียกชื่อ พ่อล่องหนมารับส่วนบุญส่วนกุศลค่าครูของพ่อ ข้าน้ำตาร่วงว่ะ ถือว่าข้าเป็นเทียนแต่เขาจุดให้ข้าสว่าง ข้ามืดมนเนอะ ช่วยเหลือแต่มนุษย์อยู่ งานบวชชอบก็ได้แต่ไปรำๆ สนุก แต่เดี๋ยวนี้ข้าไม่รำแล้วนะ งานบวชถ้านาคยกมือไหว้ พ่อแม่นาคยกมือไหว้ ข้าก็จะรำ อยู่ๆให้ข้ารำไม่รำแล้ว ข้าได้บุญ อิ่มบุญ เวลาคนมาแก้บน สมัยก่อนก็มีแค่ร้องเพลงเกี้ยวจีบหนุ่มจีบสาว ทะแยมอญ ร้องเกี้ยวกันไปมา ไม่มีอะไร แต่สมัยนี้มันกินใจ มันแต่งตามภาษาของมัน แต่มันกินใจพ่อ มันเป่ากันวันที่ 15 เมษา มันบอก “ทะเลก็คือชีวิต” พ่อชอบมากเพราะอะไรรู้ไหม ชีวิตพ่อเหมือนทะเล พอคนเดือดร้อนก็มาหาพ่อ ช่วยเหลือเสร็จคลื่นลูกนั้นก็เข้าฝั่งไป คลื่นลูกใหม่ก็มาเรื่อยๆ พ่อไม่เรียกร้องอะไร พ่อมีของพ่ออย่างนี้ พ่อไม่มีลูกศิษย์  อยากจะมาอยากจะไปได้ทั้งนั้น พ่อไม่มีองค์ พ่อไม่มีขันธ์ พ่อไม่ต้องมาเสริมดวง สมัยใหม่เขามีองค์ มีเสริมดวง   พ่อไม่รับ มีลูกเยอะก็เหนื่อยเยอะ ลูกที่ดีก็มี ที่ชั่วก็มี ถ้ามีลูกชั่วแล้วเขาบอกเป็นลูกพ่อล่องหน พอก็เสีย พ่ออยู่แบบสบายๆ ไม่ต้องแบกภาระอะไร ” (สัมภาษณ์ 8 ธันวาคม 2559)ชาวบ้านในตำบลเจ็ดริ้ว เล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อล่องหนว่า “พวกที่ชอบลองของ พวกโจรที่ชอบไปปล้นก็จะมาหลบที่ศาลพ่อ ก็หาไม่เจอ แล้วเขาก็เล่าว่า สมัยก่อนที่นี่เป็นไม้แล้วก็มาหยิบเอาของไป ไม่บอกไม่กล่าว พอเหยียบลงไปในน้ำ ก็ไปเจอกับหลังของพ่อเขาพอดี (จระเข้) จนปัจจุบันนี้คนๆ นั้นก็ไม่ลงน้ำคลองเจ็ดริ้วอีกเลย เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว คนขับรถ เจ็ดริ้ว – มหาชัย เขาทำท่าไหนไม่รู้ เขาก็มาล้างมือตรงนี้ แล้วเขาก็เห็นพ่อ เลยไม่กล้าขับรถอีกเลย เห็นพ่อวันทอง (จระเข้) เพราะพ่อวันทองแกดุ  ช่วงสงกรานต์  แถวนี้คนจะเต็มไปหมด เป็นงานปีของเขา ลูกศิษย์เขาก็จะมา พอเลี้ยงเพลเสร็จร่างทรงเขาก็จะลง ก็จะเห็นทั้ง พ่อวันทอง พ่อล่องหน พ่อเอี่ยม พ่อทุ่ง พ่อจันทร์ มาหมดทุกพ่อ พ่อวันทองก็คือเรือของเขา(จระเข้) แล้วก็จะมีพวกร่างทรงที่อื่นเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ขึ้นมานั่ง เขาก็นั่งอยู่ข้างนอก ที่นี่พ่อล่องหนจะใหญ่ ส่วนพ่อเอี่ยม พ่อจันทร์ พ่ออ้น ก็จะเป็นลูกศิษย์เขา เขาก็จะมีกลองยาว แตรวง ช่วงสงกรานต์เจ้าพ่อก็จะรำ ก็จะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ปัดเป่า ลูกศิษย์ก็จะมาทำโรงทานแจกอาหารให้กินฟรี  จะจัดงานวันที่ 15 เมษยน ส่วนวันที่ 16 จะแห่หลวงพ่อดำ จะแห่หลวงพ่อดำไปรอบตำบล แล้วชาวบ้านก็ปะน้ำ” (สัมภาษณ์ 8 ธันวาคม 2559)

close