ข่าวสารพิพิธภัณฑ์

กลุ่มเมืองโบราณ ขอเชิญเที่ยวงานเทศกาล “สยามสามฤดู”

กลุ่มเมืองโบราณ ขอเชิญเที่ยวงานเทศกาล “สยามสามฤดู” โดยในฤดูร้อนนี้จะจัดเทศกาลสงกรานต์ขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 เมษายน 2555 ณ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณและเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อร่วมอนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของไทย โดยได้จัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระประจำวันเกิด ไหว้พระในท้องช้างเอราวัณเพื่อความเป็นสิริมงคลและกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่   นางสาวพลอยนภัส ศิริสุนทโรภาส ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บจก.เมืองโบราณ เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางเมืองโบราณได้จัดกิจกรรมขึ้นบริเวณพื้นที่โซนภาคเหนือ นักท่องเที่ยวจะได้ชมขบวนแห่ล้านนา การฟ้อนบูชาหลวงพ่อโต แอ่วกาด สาดมั่ว พร้อมทั้งเลือกชิมอาหารพื้นบ้านรสชาดอร่อย จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงานประเพณีสงกรานต์ซึ่งรวบรวมความหลากหลายของกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ในบรรยากาศสีสีนฤดูร้อนและยังเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวด้วย บริการรถรับส่งฟรี ระหว่างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัน   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 02 371 3135-6 www.erawan-museum.com หรือ เมืองโบราณ 02 709 1644-8 www.ancientsiam.com ข้อมูลจาก: http://www.ryt9.com/s/prg/1377895  

เปิดตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ถนนวิภาวดีรังสิต(ติดกับอาคารเบญจจินดา) นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการบริหารกลุ่มยูคอม เจ้าของเครือข่ายมือถือดีแทค  ได้ทำการเปิด "พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (Museum Of Contemporary  Art : MOCA)" อย่างเป็นทางการ โดยมีศิลปิน-คนดัง มากมายเข้าร่วมงาน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์  อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.นินนาท เบี้ยวไข่มุก, นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, นายช่วง มูลพินิจ, นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ฯลฯ ร่วมงาน นายบุญชัย กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เกิดขึ้นจากความรักศิลปะ และแรงบันดาลใจจากตัวอาจารย์ศิลป์ พีระศรี กับคำกล่าวที่ว่า ′ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น′ โดยได้ศึกษา เรียนรู้ ตลอดจนเก็บสะสมผลงานของศิลปินต่างๆ มากว่า 30 ปี และคิดที่อยากจะมีพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บงานที่ได้สะสมมา และเป็นแหล่งแสดงงานศิลปไทยของศิลปินไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จัก "ผมอยู่กับงานศิลปะ อยู่กับคนทำงานศิลปะแล้วมีความสุข คิดว่าอีก 2 ปี หลังจากที่เกษียณจากงานที่ทำอยู่ ก็คงจะใช้เวลาของชีวิตมาอยู่ที่นี่ ทุ่มเทให้กับการทำงานศิลปะ และมูลนิธิรักบ้านเกิด อยากเชิญชวนให้ผู้สนใจและรักงานศิลปะ ได้เข้ามาชมงานที่นี่ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย จะสามารถนำองค์ความรู้ของโลกศิลปะมาสร้างความเพลิดเพลินและความสุนทรีให้แก่ผู้ชมทุกคน" นายบุญชัย กล่าว  นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในนามของศิลปิน ขอขอบคุณคุณบุญชัยที่ได้สนับสนุนวงการศิลปะมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการไปเยี่ยมบ้านให้กำลังใจ การชมงานที่จัดแสดง และซื้อรูปของศิลปิน นี่คือคนที่ทำให้ศิลปินอยู่ได้ ไม่ไส้แห้ง สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เกิดขึ้นจากความรักของคุณบุญชัย มีเงินอย่างเดียวทำไม่ได้ ต้องมีใจรักด้วย และของที่คุณบุญชัยสะสม ไม่ใช่เป็นของตัวเอง แต่เป็นการทำให้ประเทศชาติ ยากมากที่คนมีเงินในประเทศนี้จะทำได้   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทย เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบสำหรับการจัดแสดงศิลปะ มีพื้นที่ใช้งานทั้งหมด 20,000 ตารางเมตร จัดแสดงผลงานของศิลปินต่างๆ กว่า 500 ชิ้น เป็นอาคาร 5 ชั้น  ชั้นที่ 1 ประกอบด้วยห้องนิทรรศการหมุนเวียน 2 ห้อง และห้องแสดงงานของศิลปินแห่งชาติ 2 ท่าน คือศาสตราจารย์ชลูด นิ่มเสมอ และอาจารย์ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ชั้นที่ 2 ห้องแสดงผลงานแนวศิลปะไทยประยุกต์ อันประกอบด้วยเรื่องราวทางสังคมวิทยา และพุทธปรัชญา ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินอาวุโส หลายท่าน อาทิ วุฒิกร คงคา, ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ, เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, ปัญญา วิจินธนสาร, ปรีชา เถาทอง เป็นต้น   ชั้น 3 ห้องแสดงผลงาน “ศิลปะเชิงความคิดฝันและจินตนาการ” ของศิลปินชั้นนำหลายท่าน อาทิ สมพงษ์ อดุลย์สารพันธุ์, ประทีป คชบัว, สมภพ บุตรราช, จักรพันธุ์ โปษยกฤต, ช่วง มูลพินิจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีห้องนิทรรศการขุนช้าง-ขุนแผน ผลงานของ เหม เวชกร และ สุขี สมเงิน   ชั้นที่ 4 จัดแสดงผลงานอันหลากหลายของศิลปินเอกแห่งยุคสมัย คือ ถวัลย์ ดัชนี ทั้งจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ, ภาพวาดลายเส้น, ไม้แกะสลัก และ ศาสตราวุธ นอกจากนี้ภายในชั้นยังมีห้องไตรภูมิซึ่ง แสดงผลงานภาพไตรภูมิแนวร่วมสมัย ขนาดสูง 8 เมตรจำนวน 2 ภาพของ 3 ศิลปิน คือ สมภพ บุตรราช,ปัญญา วิจินธนสาร และ ประทีป คชบัว   ชั้นที่ 5 นำเสนอนิทรรศการศิลปะนานาชาติร่วมสมัยจากหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งศิลปะแนวโรแมนติกยุควิคตอเรียนที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งหาชมได้ยากในประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อยู่ที่ 600 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี สำหรับค่าเข้าชมปกติ บุคคลทั่วไป 180 บาท นักเรียน-นักศึกษาลดครึ่งราคา (มติชนออนไลน์ วันที่ 30 มีนาคม 2555)  

นิทรรศการพิเศษเรื่อง พระเมรุ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

จากความต่อเนื่องการเผยแพร่องค์ความรู้ในโอกาสครบรอบการสถาปนากรมศิลปากร โดยจากช่วงเวลานี้จวบถึง 8 เมษายน 2555 ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้จัดแสดง นิทรรศการพิเศษเรื่องพระเมรุ เด่นดาว ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครให้ความรู้กล่าวถึงนิทรรศการพิเศษครั้งนี้ว่า ในโอกาสการครบรอบ 101 ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร โดยในปีนี้กรมศิลปากรมีภารกิจสำคัญการสร้างพระเมรุรวมทั้งเตรียมความพร้อม ราชรถราชยานจึงนำงานทางด้านวิชาการที่เกี่ยวเนื่องเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน จากที่ผ่านมาได้จัดการเสวนาเรื่องคติความเชื่อเกี่ยวกับพระเมรุ องค์ประกอบและศิลปกรรมประกอบพระเมรุ รวมทั้งได้จัดบรรยายความรู้ในเรื่องราชรถราชยานพร้อมกับการนำชม อีกทั้งได้จัดแสดงนิทรรศการพิเศษเรื่องพระเมรุให้ประชาชนได้รับความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับงานพระเมรุ “นิทรรศการพิเศษครั้งนี้เป็นนิทรรศการขนาดเล็กจัดแสดงความรู้เบื้องต้นโดยจะ เปิดการแสดงไปจนกระทั่งถึงงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ส่วนเนื้อหาการจัดแสดงครั้งนี้อาจเป็นส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ คติความเชื่อ ประวัติความเป็นมาของพระเมรุว่ามีความเป็นมาอย่างไรและองค์ประกอบ ศิลปกรรมซึ่งก็จะได้ศึกษาถึงโครงสร้างหรืองานศิลปกรรมส่วนต่าง ๆ ฯลฯ” ในเนื้อหาที่จัดแสดงเป็นการกล่าวโดยรวมมิได้เจาะจงว่าเป็นพระเมรุองค์ใดเป็น การถ่ายทอดแสดงให้เห็นถึงการจัดสร้างพระเมรุนับเนื่องมาแต่ครั้งอยุธยา ศิลปกรรมงานช่าง ฯลฯ ซึ่งก็ได้รวบรวมนำมาจัดแสดงให้ประชาชนได้มีความเข้าใจเรียนรู้จากข้อมูล เบื้องต้นเหล่านี้ นิทรรศการครั้งนี้เป็นนิทรรศการที่จัดแสดงกลางแจ้งภายในศาลาสำราญมุขมาตย์ การจัดแสดงจึงนำเสนอเป็นเนื้อหาพร้อมด้วยภาพถ่ายและจากนิทรรศการยังสามารถ เชื่อมโยงไปยังโรงราชรถซึ่งจัดแสดงอยู่ไม่ไกลจากกัน โดยการจัดแสดงภายในโรงราชรถแสดงสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับงานพระเมรุพร้อมให้ ศึกษาได้รับความรู้เกี่ยวกับพระเมรุมากยิ่งขึ้นโดยสอดคล้องกับช่วงเวลานี้ ที่มีการจัดสร้างพระเมรุ นับเป็นการเชื่อมต่อองค์ความรู้ต่อกันและนอกเหนือจากนิทรรศการพิเศษที่จัด แสดงขึ้นในช่วงเวลานี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ยังพร้อมให้เข้าชมเติมต่อประสบการณ์การเรียนรู้ศึกษาประวัติ ศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมร่วมด้วย.(ภาพและข่าวจากเดลินิวส์ วันที่ 1 เมษายน 2555)  

People's Gallery วันสุดท้าย!!!

(People's Gallery)  การแสดงผลงานสีน้ำชุด สีน้ำจากเฟซบุ๊ค โดย บุญกว้าง นนท์เจริญ (For English Please Scroll Down) ปัจจุบันโลกออนไลน์มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตคนไทยเป็นอันมาก ก่อให้เกิดสังคมกลุ่มใหม่ที่มีขนาดใหญ่เพราะมีสมาชิกเชื่อมถึงกันทั้งโลก นั่นคือสังคมออนไลน์ที่ชื่อเฟซบุ๊ค  นอกจากเฟซบุ๊คจะใช้เป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือทักทายกันแล้ว เฟซบุ๊คยังนำคนที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกันเช่นหนัง เพลง สัตว์เลี้ยงหรือแม้กระทั่งศิลปะให้มาพบปะเจอะเจอกัน ผมเองมีงานอดิเรกคือการเขียนสีน้ำและใช้เฟซบุ๊คเป็นแกลเลอรี่ออนไลน์ให้คนเข้ามาชมมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2010 จนปัจจุบัน จำนวนผลงานสีน้ำที่ผมโพสต์ลงเฟซบุ๊คมีจำนวนถึง 161 ชิ้น มีสมาชิกมากมายแสดงความเห็นว่าควรจะจัดงานแสดงได้แล้ว ซึ่งประจวบเหมาะกับการที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครได้มีโครงการ People's Gallery พอดี  จัดแสดงระหว่างวันที่ 10 มีนาคม-10 เมษายน 2555 ที่ People's Gallery ห้อง p 1และ p 2 หอศิลปกรุงเทพฯ ข้อมูลจาก: https://www.facebook.com/media/set/?set=a.289991414407941.67410.113578788715872&type=3

พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซด์เปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสแคทเธอรีน

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งชื่อดัง มาดาม ทุสโซด์ในอังกฤษ เปิดตัวหุ่นจำลองของเจ้าชายวิลเลียม และดัชเชส แคทเธอรีน เมื่อวาน และคาดว่าจะกลายเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมมากที่สุด หุ่นขี้ผึ้งของเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชส แคทเธอรีน ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์มาดาม ทุสโซด์ในกรุงลอนดอน และเปิดให้ชมเมื่อวาน สร้างขึ้นโดยสวมชุดและอยู่ในท่ายืนแบบเดียวกับที่ทั้งสองพระองค์ทรงฉลองพระองค์และประทับยืนในวันแถล่งข่าวประกาศพิธีหมั้นที่พระตำหนักเซนต์เจมส์  เดิมทางพิพิธภัณฑ์ได้ติดต่อขออนุญาตจากพระตำหนักเซนต์เจมส์เพื่อเข้าเฝ้าทั้งสองพระองค์ แต่เนื่องจากทั้งสองพระองค์ทรงมีภารกิจมาก จึงไม่อาจให้เข้าเฝ้าได้ ทางพระตำหนักจึงได้มอบภาพถ่ายวันประกาศพิธีหมั้นเพื่อให้เป็นแบบในการสร้างหุ่นขี้ผึ้ง  ทีมงานราว 30 คนใช้เวลาสร้างหุ่นขี้ผึ้งแต่ละตัวนาน 4 เดือนตั้งแต่เริ่มปั้น ลงสี ทำเส้นผม และการแต่งตัวหุ่นด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และหุ่นแต่ละตัวมีราคาสูงถึง 240,000 ดอลลาร์หรือราว 7 ล้าน 2 แสนบาท  นอกจากนี้หุ่นขี้ผึ้งของทั้งดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ดังกล่าว ก็ได้รับการเปิดตัวที่พิพิธภัณฑ์มาดาม ทุสโซด์ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ และกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ในวันเดียวกันด้วย  แต่หุ่นของดัชเชส แคทเธอรีน ที่จัดแสดงในสหรัฐจะสวมชุดราตรีของดีไซเนอร์ อเล็กซานเดอร์ แมคควีนที่ทรงสวมไปร่วมงานประกาศผลรางวัลบาฟต้าในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ส่วนหุ่นของดัชเชส ที่ตั้งโชว์ในเนเธอร์แลนด์ จะสวมชุดผ้าลูกไม้ของเทมเพอร์เล่ย์ ลอนดอน ที่พระองค์ทรงสวมไปร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง วอร์ ฮอส (เนชั่นทันข่าว วันที่ 10 เมษายน 2555)

งาน “มหกรรมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคอีสาน” ที่ผ่านมา

  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  จัดงาน “มหกรรมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคอีสาน” มุ่งหวังให้พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นมีเวทีถ่ายทอดประสบการณ์การทำงาน และประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์ในภาคอีสานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง    เมื่อวันที่  3 เมษายน  2555  ณ  โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย  สมัปปิโต  อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคอีสาน”  โดยมี  นายพิเนตร  ดาวเรือง  กรรมการและเลขานุการโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  กล่าวรายงาน    ซึ่งการจัดงาน  “มหกรรมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคอีสาน”  เป็นวิธีหนึ่งในการพัฒนารูปแบบและเสริมสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์  โดยการจัดเวทีให้กับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์  ได้นำผลงานมาจัดแสดง  พร้อมกับการจัดเสวนาทางวิชาการเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้    ความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกันระหว่างเครือข่าย  พิพิธภัณฑ์  รวมทั้งการมีส่วนร่วมของหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้  เพื่อมุ่งหวังให้พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นมีเวทีถ่ายทอดประสบการณ์การทำงาน  และประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์ของตนเองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในฐานะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในสังคมไทย  ตลอดจนการสนับสนุนให้พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งนำสินค้า  และของที่ระลึกมาจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ในการสนับสนุนกิจการของพิพิธภัณฑ์    โดยมีหน่วยงาน  กลุ่ม/ศูนย์พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคอีสาน  กลุ่มผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคอีสาน  กลุ่มสาธิตการทำขนมเทียนแก้ว  ข้าวต้มมัด  ข้าวเม่า  และอาหารพื้นบ้านอีสาน  ประมาณ 20  ศูนย์พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นทั่วภาคอีสาน  ที่เข้าร่วมจัดแสดงออกร้าน  สาธิต  และจัดนิทรรศการ  ภายในบริเวณงาน      นอกจากนี้  ยังได้รับความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่างๆ  ได้แก่  กระทรวงวัฒนธรรม  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม  ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในภาคอีสาน  ร่วมจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4  เมษายน  2555  ณ บริเวณโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  โทรศัพท์. 0-4375-4380 ภาพ / ข่าว : บุณฑริกา  ภูผาหลวง ที่มา : โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม http://www.web.msu.ac.th/hotnews/detailnews.php?hm&hotnewsid=3289&uf&qu  

เมืองกว๊านฯ ระดมเครือข่าย 8 จว.โชว์วิถีล้านนา ฟื้นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นถูกน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่บริเวณรอบศาลาบาตรวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ต.เวียง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยา ร่วมกับหอวัฒนธรรมนิทัศน์ วัดศรีโคมคำ จัดโครงการนิทรรศการและเวทีความรู้ รวมพลังเพื่อฟื้นฟูพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่ประสบอุทกภัย (มหกรรมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและภูมิปัญญามรดกทางวัฒนธรรมล้านนา) ขึ้น โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเครือข่ายพิพิธภัณฑ์จาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 19 แห่ง และภูมิปัญญามรดกทางวัฒนธรรมจากทั้ง 9 อำเภอในจังหวัดพะเยา เข้าร่วมโครงการฯ นายนที เมืองมา วัฒนธรรมจังหวัดพะเยา กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเป็นสถาบันทางวัฒนธรรมของชุมชน ที่ทำให้สังคมมองเห็นและเข้าใจในภาพลักษณ์และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการประสานความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับความรู้ดั้งเดิม พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจึงแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์ของชุมชนที่ล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันมีค่าในการดำรงชีวิตทั้งปัจจุบัน และอนาคต ดังนั้น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยาจึงได้ร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องจัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อเป็นการจัดพื้นที่แสดงนิทรรศการของเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น พร้อมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายคนทำงานพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นชุมชน และผู้ปฏิบัติงานด้านวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน เยาวชน เห็นคุณค่าของการรักษาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและชุมชน โดยภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่หาชมได้ยาก การสาธิตเผยแพร่ภูมิปัญญามรดกทางวัฒนธรรมล้านนาด้านต่างๆ ฟังการเสวนาวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น การจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมจากผู้ผลิตโดยตรง และพบกับการแสดงการฟ้อนแง้น การว่าค่าวซอ และการแสดงบนเวทีของศิลปินล้านนา (ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 30 เมษายน 2555) ภาพบรรยากาศภายในงาน โดย คุณทรงศักดิ์ แก้วมูล  https://www.facebook.com/media/set/?set=a.275378925877988.66341.100002176490762&type=3

"ลูฟร์"ครองแชมป์พิพิธภัณฑ์ศิลปะ มีผู้ชมสูงสุดในโลก 8.8 ล้านคน

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในกรุงปารีส ได้รับยกย่องให้เป็นสถานที่แสดงศิลปะที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก เมื่อปี 2011 โดยผลจากโพลล์ประจำปีที่จัดทำโดยนิตยสารอาร์ท นิวส์เปเปอร์  จากการรวบรวมข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมงานจากสถานที่แสดงงานศิลปะทั่วโลกกว่า 400 แห่ง ระบุว่า มีผู้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟร์เมื่อปีที่แล้วกว่า 8.88 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปี 2010  ซึ่งลูฟร์ครองแชมป์มาตลอด ตั้งแต่การจัดอันดับครั้งแรกในปี 2007   ขณะที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิแทน มิวเซียม ออฟ อาร์ท ที่นครนิวยอร์ก ตามมาเป็นอันดับ 2  โดยมีผู้สนใจเข้าชมกว่า 6.0 ล้านคน  และบริทิช มิวเซียมในกรุงลอนดอน จำนวน 5.84 ล้านคน นอกจากนั้น พิพิธภัณฑ์อีก 2 แห่งในกรุงลอนดอน ยังติดอันดับที่ 4 และ 5 ได้แก่ เนชันแนล แกลเลอรี มีผู้เข้าชมราว 5.25 ล้านคน และเทต โมเดิร์น 4.8 ล้านคน   จาเวียร์ เปซ รองบรรณาธิการอาร์ท นิวส์เปเปอร์กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ลูฟร์ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องก็คือ มีผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงหลายชิ้น แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ งานภาพวาด"โมนา ลิซา"ของลีโอนาร์โด ดาวินชี  อย่างไรก็ดี พบว่า แนวโน้มผู้ชมงานศิลปะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำอย่างต่อเนื่องก็ตาม  โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้มีการตัดงบประมาณการอุดหนุนด้านศิลปะจำนวนมาก   โดยอันดับ 6 ตกเป็นของเนชันแนล แกลเลอรี ออฟ อาร์ท ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวในสหรัฐฯที่มีผลงานศิลปะของดาวินชีจัดแสดง ตามมาด้วยเนชันแนล พาเลซ มิวเซียม ที่นครไทเป  ส่วนอันดับ 8 คือ เซ็นเตอร์ ปอมปิดู ในกรุงปารีส  พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเกาหลี ตามมาเป็นอันดับ 9 และมูเซ ดอร์เซย์ ที่กรุงปารีส ในอันดับ 10 ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นรายนิทรรศการแล้ว โดยพิจารณาจากจำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่อวัน พบว่า นิทรรศการชื่อ "The Magical World of Escher" ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งบราซิล ในนครริโอเดอจาเนโร  มีผู้เข้าชมมากถึง 573,691 คน หรือเฉลี่ย 9,677 คน ต่อวัน  อันดับ 4 ตกเป็นของนิทรรศการ "Alexander McQueen: Savage Beauty" ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิแทน มิวเซียม ออฟ อาร์ท ที่นครนิวยอร์ก มีผู้เข้าชม 661,509 คน เฉลี่ย 8,025 คนต่อวัน และนิทรรศการ "Claude Monet (1840-1926)" ที่กรองด์ ปาเลซ์ กรุงปารีส จำนวน 913,064 เฉลี่ย 7,609 คนต่อวัน (มติชนออนไลน์ วันที่ 23 มีนาคม 2555)