รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์วัดสะลวงใน

วัดสะลวงใน หรือวัดสิทธิทรงธรรม เป็นวัดเก่าแก่ของล้านนา ก่อตั้งเมื่อปี 2435 มีวิหารไม้รูปทรงสวยงาน หน้าบันแกะสัก ภายในวัดมีหีบพระรรมที่มีรูปทรงและการประดับตกแต่งที่สวยงาม โดยได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ยังคงหลงเหลือให้ชื่นชมอยู่ 10 ใบ แต่เดิมหีบธรรมเหล่านี้อยู่ในกุฏิสงฆ์ ใช้เก็บผ้าและข้าวของต่าง ๆ ต่อมาได้มีการสร้างอาคารอเนกประสงค์เพื่อจัดเก็บรักษาหีบธรรมเหล่านี้และใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีพระไตรปิฎก ฉบับล้านนา ที่พระญาณคัมภีร์และครูบาวัดฝายหิน (พระอภัยสารทะ) จารไว้ กว่า 500 ผูก ปัจจุบันมีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

จ. เชียงใหม่

ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอสันป่าตอง ร.ร.สันป่าตองวิทยาคม

ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอสันป่าตอง ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม ก่อตั้งเมื่อปี 2531 จัดแสดงวัตถุโบราณ เช่น เครื่องปั้นดินเผา น้ำต้น คนโท และวัตถุทางวัฒนธรรมที่ทำด้วยไม้และเครื่องจักสาน ได้แก่ อุปกรณ์จับสัตว์ ข้อง แซะ ไซ ตะกร้า หมวก เครื่องมือที่ใช้ทอผ้า กงปั่นฝ้าย อุปกรณ์ทำนา เช่น คราด ไถ โดยวัตถุที่น่าสนใจเช่น ใบสูติบัตรที่ทำด้วยไม้ไผ่ จารึกวันเดือนปีเกิด เรียกว่า "ไม้จ๊ะต๋า" ครกบดยาที่ทำด้วยไม้ และพับสาใบลาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การบรรยายให้ความรู้แก่นักเรียนและชุมชน การจัดงานวันอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และยังจัดให้มีการเรียนการสอนภาษาล้านนาในโรงเรียน และมีการสืบค้นภาษาดั้งเดิมของกลุ่มชนต่างๆ เช่น เขิน ยอง ลัวะ เงี้ยว และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในอำเภอสันป่าตอง

จ. เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร

วัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญมากวัดหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กษัตริย์เมืองเชียงใหม่หลายพระองค์มีพระราชศรัทธาต่อพระบรมธาตุและได้ทำนุบำรุงและถวายเครื่องสักการะสืบมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับพิพิธภัณฑ์สร้างในปี พ.ศ.2534 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนหลังคากระเบื้องชั้นเดียว ขนาดเนื้อที่ประมาณ 144 ตารางเมตร อยู่ด้านหลังวิหาร ภายในเก็บและจัดแสดงของเก่าที่วัดมีอยู่ อาทิ แหย่งช้างของพระเมืองแก้วชามลายครามจีน ชามเบญจรงค์ มณฑป โตกหลวงขนาด 60 กว่านิ้ว 1 คู่ เจดีย์พระเจ้า 800 องค์ ไม้แกะสลักรูปสัตว์งดงาม ตุงกระด้าง ขันแก้ว หุ่นคน ธรรมมาสน์ไม้ และตู้พระธรรมหลายใบ ในวิหารเล็กมีตู้ทรงมณฑปใส่พระพุทธรูปเงิน ทองคำของเก่าองค์เล็กๆ จำนวนมาก

จ. เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก

บ้านจ๊างนักก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยสล่าเพชร วิริยะ ท่านได้ชักชวนพื่อนฝูง ตลอดจนลูกศิษย์ลูกหา ช่างแกะสลักฝีมือดีและมีความรักในศิลปะการแกะสลักไม้แบบล้านนา มารวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มแกะสลักขึ้นมา เมื่อปีพ.ศ. 2531 ชื่อ “บ้านจ๊างนัก” หมายถึงบ้านที่มีช้างเยอะแยะมากมาย ในอดีตที่ผ่านมา การแกะสลักช้างจะมีอยู่เพียง 2-3 ท่าเท่านั้น คือท่ายืนและท่าเดินรวมทั้งเป็นงานแกะสลักแบบขัดเกลี้ยงและลงเเล็กเกอร์ บ้านจ๊างนัก ได้มีการพัฒนารูปแบบการแกะสลักช้าง จากเดิมที่ช่างแกะจะมีการแกะสลักแบบตายตัว รูปแบบจะซ้ำกัน มาเป็นการแกะสลักช้างที่ดูมีชีวิตชีวา มีท่าทางท่วงทำนองที่เหมือน ช้างจริง ๆ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกที่มีการแกะสลักช้างรูปแบบนี้ รูปแบบของงานแกะสลักช้างของบ้านจ๊างนักแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ คืองานแกะสลักช้างลอยตัวซึ่งมีขนาดตัวเล็กหรือตัวใหญ่ งานแกะสลักช้างบนแผ่นไม้กระดานสำหรับติดฝาผนัง งานแกะหัวช้างที่มีทั้งหัวเล็กหรือหัวใหญ่ และงานไม้ท่อนที่แกะช้างเป็นฝูง บ้านจ๊างนัก ยังเป็นแห่งแรกที่มีการทดลองนำวัสดุใหม่ๆที่หาได้ในท้องถิ่นมาทด แทนวัสดุเดิม ที่นับวันมีแต่จะหายากมากขึ้น เช่น มีการนำเอาไม้ขี้เหล็กมาทดแทนไม้สัก นอกจากการทดลองเรื่องของไม้แล้ว ยังมีการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอด กันมามาประยุกต์ใช้ กับงานแกะสลัก นั่นก็คือ นำเอาลูกมะเกลือที่ใช้ในการย้อมผ้า มาย้อมสีไม้ซึ่งก็ให้สีที่เป็นธรรมชาติและไม่มีสารพิษตกค้างเป็นอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม

จ. เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์วัดบวกค้าง

วัดบวกค้าง เดิมชื่อวัดบวกค่าง สร้างขึ้นสมัยพระเจ้ากือนา ได้สร้างวัดตรงที่ฝูงค่างป่ามาขุดบวก (สระน้ำ) ไว้ดังปรากฏในตำนาน จึงได้ชื่อว่า วัดบวกค่าง (ภายหลังเพี้ยนเป็นบวกค้าง) หลังจากที่พระเจ้ากาวีละกอบกู้เอกราชของเมืองเชียงใหม่คืนจากพม่า ได้ยกทัพขึ้นไปกวาดต้อนผู้คนจากเมืองยองมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เชียงใหม่ ณ บ้านบวกค้าง ได้อาราธนาครูบาเจ้าญาณสิริ จากวัดบ้านแซมหลวง เมืองยอง มาเป็นเจ้าอาวาส และบูรณะวัดขึ้นใหม่ และได้สร้างพระนอนหล้า วิหารหลังคาแฝด พระอุโบสถ หอพระไตร และถาวรวัตถุต่าง ๆ ซึ่งผู้คนในบริเวณชุมชนแถบนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวยอง จึงได้ชื่อว่าเป็นชุมชนคนยองมาถึงปัจจุบัน

จ. เชียงใหม่