รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์วัดอินทขีลสะดือเมือง

จัดตั้งโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่(อบจ.เชียงใหม่) โดยปรับปรุงอาคารเก่าซึ่งเคยเป็นหอประชุมติโลกราช นำเสนอประวัติศาสตร์และศิลปะท้องถิ่น โดยเฉพาะการรวบรวมเรื่องราวในยุคทองของเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช จัดแสดงภูมิปัญญาการละเล่นพื้นบ้าน บุคคลสำคัญของเมืองเชียงใหม่ ในรูปแบบประติมากรรมหรือรูปปั้นเหมือนจริง มีแบบจำลองเรื่องราวพื้นบ้านอันหลากหลาย เช่น การฟ้อนผี พิธีรดน้ำดำหัวพญามังราย ตำนานพระแก้วมรกต การบวชลูกแก้ว กาดหมั้ว ตลอดจนแสดงถึงวิธีการลงโทษเฆี่ยนตี ตัดคอ และยังจัดแสดงหุ่นจำลองพระสงฆ์ เกจิอาจารย์ชื่อดังของล้านนา อาทิ ครูบาเจ้าศรีวิชัย หลวงปู่แหวนสุจิณโณ หลวงปู่หล้าตาทิพย์ หลวงพ่อเกษม เขมโก และมีการเปลี่ยนชื่อพิพิธภัณฑ์ จาก "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่" เป็น “พิพิธภัณฑ์วัดอินทขีลสะดือเมือง” ในปีพ.ศ. 2551

จ. เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุดอยสุเทพวรมหาวิหาร

ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุดอยสุเทพวรมหาวิหาร เก็บรวบรวมวัตถุต่างๆ ที่เป็นของวัดมาแต่เดิม วัตถุที่จัดแสดงได้ทำทะเบียนไว้โดยกรมศิลปากร จัดแสดงวัตถุเป็นกลุ่ม แยกตามตู้จัดแสดง วัตถุชิ้นเด่นคือ ภาพผ้าปักดิ้นทองรูปเทวดาบนดอกบัว ซึ่งเป็นฝีพระหัตถ์ของพระราชชายาดารารัศมีถวายบูชาพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน ลักษณะเป็นศาลาไทยหลังคามุ่งกระเบื้อง หน้ามุขทางเข้าทำหลังคาซ้อนชั้น ประตูหน้าต่างเป็นหลังคาซ้อนชั้น ประตูหน้าต่างเป็นไม้แกะสลักเป็นรูปทวารบาล

จ. เชียงใหม่

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม เกิดจากความตั้งใจในการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมซึ่งเป็นภารกิจหลักอีกประการของมหาวิทยาลัยพายัพ จนกระทั่งได้เริ่มโครงการจัดตั้งศูนย์ศิลปวัฒนธรรมล้านนาในปี 2537 และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมในภายหลัง ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่เพื่อทำนุบำรุงศิลปะวัฒนธรรม แล้วยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวิชาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย งานประชุมสัมมนา การเสวนาหรือจัดอบรม รวมไปถึงใช้เพื่อจัดกิจกรรมที่เป็นประเพณีต่าง ๆ รูปแบบอาคารเป็นแบบล้านนาร่วมสมัยให้ความรู้สึกเหมือนย้อนอดีต อีกทั้งปัจจุบันศูนย์ฯยังกลายเป็นสถานที่ที่นิยมจัดงานแต่งงานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ด้วย

จ. เชียงใหม่

สำนักศิลปะแลวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

สถาบันล้านนาศึกษา สังกัดสำนักศิลปะแลวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ประกอบด้วยเรือนอนุสารสุนทร และอาคารเทพรัตนราชสุดา โดยเรือนอนุสารสุนทรเป็นสถาปัตยกรรมเรือนล้านนาที่สร้างตามแบบของเรือนคำเที่ยง ซึ่งตระกูลชุติมา และตระกูลนิมมานเหมินท์ ได้สร้างเรือนกาแลหลังนี้ขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านเรือนโบราณล้านนา ส่วนอาคารเทพรัตนราชสุดา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานนามอาคารและเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดอาคารเทพรัตนราชสุดา ในวันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ โดยแบ่งการจัดแสดดงตามชั้น ได้แก่ บริเวณชั้น 1 ห้องศูนย์ข้อมูลภูมิปัญญาล้านนา ห้องครัวไทย ศูนย์ใบลานศึกษา และส่วนสำนักงาน ชั้น 2 นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ได้แก่ ไทยวน ลัวะ ไทเขิน ไทยอง ไทใหญ่ ไทลื้อ ห้องอักษรไท ห้องภูษาอาภรณ์ บริเวณชั้น 3 นำเสนอภูมิปัญญาพื้นบ้าน อาทิ ภาษาและวรรณกรรมล้านนา ศิลปหัตถกรรม ดนตรีและนาฏศิลป์พื้นบ้าน แพทย์แผนไทยล้านนาหรือที่เรียกกันว่า “หมอเมือง” ห้องเกียรติคุณ ที่รวบรวมเกียรติประวัติและความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ บริเวณชั้น 4 นำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสน์และเครื่องสักการะล้านนา เส้นทางการเดินทัพห้องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากเชียงใหม่ไปยังเมืองนาย ประเทศพม่า

จ. เชียงใหม่

เฮือนแก้ว ร.ร.ยุพราชวิทยาลัย

โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2442 ตามพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในการขยายการศึกษาออกสู่หัวเมือง อาคารพิพิธภัณฑ์หรือ เฮือนแก้ว เป็นเรือนพื้นถิ่นจำลองที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงอาคารเรียนไม้หลังเก่าแก่ของโรงเรียน สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2530 ลักษณะอาคารเป็นเรือนไม้สักทรงล้านนาใต้ถุนสูง ภายในมีห้องจัดแสดง 3 ห้อง จัดแสดงไม้แกะสลัก เครื่องปั้นดินเผา เครื่องจักสาน เครื่องเขิน เครื่องมือเกษตร เครื่องมือจับปลา และยังแสดงภาพถ่ายและแผนที่ประกอบ วัตถุที่จัดแสดงเป็นเก็บสะสมของโรงเรียนมาแต่เดิมและบางส่วนได้รับบริจาคจากผู้ปกครองนักเรียนและศิษย์เก่า

จ. เชียงใหม่