รายชื่อพิพิธภัณฑ์

หมู่บ้านญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญีปุ่นตั้งอยู่ในพื้นที่ถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมของชุมชนชาวญี่ปุ่นในสมัยอยุธยา ในปี พ.ศ. 2529 รัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 100 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น ภายในสร้างเป็นสวนและศาลาญี่ปุ่น พร้อมกับหมู่อาคาร ที่จัดแสดงนิทรรศการความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยา เส้นทางเดินเรือ การติดต่อค้าขาย เรื่องราวเกี่ยวกับ การเข้ามาของคนญี่ปุ่น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา พร้อมสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย นิทรรศการถาวรชื่อว่า “นิทรรศการยามาดะ นางามาซะ (ออกญาเสนาภิมุข) และท้าวทองกีบม้า”

จ. พระนครศรีอยุธยา

พิพิธภัณฑ์ศูนย์การทหารปืนใหญ่

พิพิธภัณฑ์ทั้งหมดของศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน จ.ลพบุรี มีทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่ 1. อาคารอนุสรณ์สถานจอมพล ป.พิบูลสงคราม 2. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง 3. ตึกพิบูลสงคราม 4. บ้านพักพลเอกพระยาพระหลพลพยุหเสนา 5. อาคารอนุสรณ์สถาน 111 ปี พระยาพหลพลพยุหเสนา 6. พิพิธภัณฑ์อาวุธทหารปืนใหญ่ 7. ตึกกองบัญชาการเขาน้ำโจน (ชาโต้) ที่น่าสนใจคือรูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ และประวัติศาสตร์ของสถานที่อันเกี่ยวข้องกับนโยบายของผู้นำกองทัพและผู้นำประเทศที่สัมพันธ์กับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น อาทิ ตึกกองบัญชาการเขาน้ำโจน (ชาโต้) เป็นอาคารรูปทรงแปลกตาสร้างด้วยรูปแบบอาคารในเมืองหนาว สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2487 โดยดำริของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เพื่อให้เป็นจุดสังเกตการณ์ข้าศึก และสังเกตอาณัติสัญญาณจากตึกพิบูลสงคราม ภายในเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับจอมพล ป. และคงไว้ซึ่งเครื่องเรือนในยุคสมัยดังกล่าว

จ. ลพบุรี

พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ ลพบุรี

พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ ก่อตั้งขึ้นในสมัยของพลเอกวิมล วงศ์วานิช ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์ทางการทหารและวีรกรรมของหน่วยรบพิเศษ แต่เดิมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กองทัพบก ได้จัดตั้งกองพันทหารพลร่มขึ้นเป็นครั้งแรกที่บ้านป่าหวาย ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อ พ.ศ.2497 และได้มีวิวัฒนาการมาเป็นหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษในปัจจุบัน ทั้งนี้หน่วยรบพิเศษเป็นหน่วยทหารที่มีความสำคัญยิ่งหน่วยหนึ่งของกองทัพบกไทยมาทุกยุคทุกสมัย นายทหารหลายท่านที่มาจากหน่วยทหารรบพิเศษได้รับตำแหน่งระดับเป็นผู้นำในกองทัพ ได้แก่ พลเอกสุรยุทธ จุลลานนท์ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ พลเอกวิมล วงศ์วานิช ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย 8 ห้อง ได้แก่ ห้องแสดงเรื่องการพัฒนาหน่วยรบพิเศษ ห้องจัดแสดงเกี่ยวกับการฝึก-การศึกษาของหน่วยรบพิเศษ ห้องจัดแสดงการปฏิบัติการรบในยุทธการต่าง ๆ ห้องจัดแสดงกิจกรรมที่สำคัญของหน่วยรบ ห้องจำลองปฏิบัติการใต้น้ำ ห้องจำลองปฏิบัติการใต้ดิน ห้องจำลองปฏิบัติการรบในป่า การจัดแสดงทั้งหมดนั้นเพื่อให้ผู้ที่ได้เข้าชม ได้เข้าใจถึงภารกิจและหน้าที่รับผิดชอบของทหารหน่วยรบพิเศษ ให้เข้าในคำขวัญของหน่วยที่ว่า “พลังเงียบ เฉียบขาด”

จ. ลพบุรี

พิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์

พิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 ด้วยความดำริของพระครูโสภณธรรมรัต(อาศรม ธมฺมทีโป) เจ้าอาวาสวัดเชิงท่า เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าทางศาสนา ศิลปกรรม ประวัติศาสตร์ อันเป็นสมบัติเก่าแก่ของวัดและของส่วนตัวของท่านพระครูโสภณธรรมรัต วัตถุต่าง ๆ รวบรวมมาจากสองแหล่งสำคัญคือ สมบัติของวัดเชิงท่าที่มีมาแต่เดิม และสมบัติส่วนตัวของท่านพระครูโสภณธรรมรัต แม้วัตถุที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับพิพิธภัณฑ์วัดอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป พระคัมภีร์ พระบฎ เครื่องถ้วย ตู้คัมภีร์ ตาลปัตร แต่การจัดแสดงด้วยเรื่องราวของวัด และพระพุทธศาสนาได้ยึดโยงและสอดผสานไปกับสิ่งของจนทำให้ผู้ชมได้เข้าใจชีวิตทางสังคมชาวพุทธได้อย่างลงตัว

จ. ลพบุรี

ศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม ต่อตั้งเมื่อปี 2523 ในสังกัดวิทยาลัยครูเทพสตรี และได้มีการพัฒนาจนเป็นศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี ทำหน้าที่เป็นศูนย์วัฒนธรรมของจังหวัด ภายหลังมีการพระราชทานนามวิทยาลัยครูเป็นสถาบันราชภัฏ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมจึงได้เปลี่ยนเป็นสำนักศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏเทพสตรี ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนสถานะจากสถาบันราชภัฏเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ สำนักศิลปวัฒนธรรมจึงเปลี่ยนเป็นสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จนถึงปัจจุบัน โดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรมจะมีการจัดกิจกรรมและดำเนินการด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม แบ่งภารกิจเป็น 4 งาน คือ งานธุรการ งานส่งเสริมและเผยแพร่ งานศึกษาค้นคว้าวิจัย และงานหอวัฒนธรรม โดยมีห้องนิทรรศการถาวร 1 ห้อง และห้องนิทรรศการหมุนเวียน 1 ห้อง

จ. ลพบุรี

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหัวสำโรง

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหัวสำโรง ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของศาลาการเปรียญวัดมะค่า อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ริเริ่มโดยสภาวัฒนธรรมตำบลหัวสำโรง และทางคณะกรรมการวัด ที่เห็นว่าวัตถุและข้าวของพื้นบ้านที่หมดสมัย เพราะวิถีชีวิตและการทำมาหากินที่เปลี่ยนไป มีเครื่องไม้เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาแทนที่ ของเก่าจึงถูกละทิ้งและเกรงว่าหากไม่เก็บรักษาไว้จะไม่มีเหลือให้คนรุ่นหลังได้เห็นอีกแล้ว จึงคิดเก็บรวบรวมเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไว้ โดยเริ่มในปี พ.ศ. 2549 ใช้สถานที่ชั้นล่างของศาลาการเปรียญวัดมะค่าเป็นที่จัดตั้งสิ่งของที่ได้มาจากการบริจาคของชาวบ้าน จำพวก เครื่องมือทำการเกษตร เครื่องมือทำนา เครื่องดักจับสัตว์น้ำ เครื่องมือช่าง และโบราณวัตถุอื่นๆ เช่น สมุดข่อย คัมภีร์ใบลาน พระพุทธรูป ภาพถ่ายเก่า ทางชุมชนได้รวบรวมข้อมูลของตำบลหัวสำโรง จัดทำเป็นหนังสือ "กรณีตัวอย่างประชาคมตำบลหัวสำโรง" ที่มีข้อมูลของตำบลหัวสำโรงในแง่มุมต่างๆ สำหรับเป็นแหล่งค้นคว้าสำหรับผู้สนใจ

จ. ลพบุรี