รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี

พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี ริเริ่มโดยเทศบาลจังหวัดนนทบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสืบสานจิตวิญญาณแห่งเมืองนนท์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ศาลากลางหลังเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีเอกลักษณ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2453 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อให้เป็นโรงเรียนกฎหมาย แต่เกิดอุปสรรคบางประการจึงเปิดเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัย ตามรูปแบบคิงส์คอลเลจ (King’s College) ประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก กิจการโรงเรียนถูกยุบรวม อาคารหลังนี้ร้างไปชั่วขณะ ต่อมากลายเป็นศาลากลางจังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ พ.ศ.2471-2535 จากนั้นกระทรวงมหาดไทยได้ขอใช้เป็นวิทยาลัยมหาดไทยนาน 16 ปี ต่อมาในปี พ.ศ.2552 เทศบาลนครนนทบุรีจึงริเริ่มดำเนินการปรับปรุงอาคารส่วนหน้าเป็น“พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี” ภายในจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จังหวัดนนทบุรี ดินแดนแก่เก่าของไทยจากเมืองหน้าด่านสมัยอยุธยาจนถึงเมืองท่าของกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ ทำให้เมืองนนท์เป็นแหล่งผสมผสานคนจากหลากหลายชนชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เกิดเป็นวิถีชีวิตคนเมืองนนท์ แหล่งเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญ และหลากหลายภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เรื่องสถาปัตยกรรมของอาคารศาลากลางเก่า อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันอีกด้วย

จ. นนทบุรี

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรี โรงเรียนนนทบุรีพิทยาคม

ผู้ที่ริเริ่มจัดทำพิพิธภัณฑ์ในโรงเรียนคือ อาจารย์สุธาทิพย์ ศุกระโยธิน ผู้อำนวยการคนก่อนของโรงเรียน ที่รวบรวมข้าวของจากแหล่งต่างๆ ทั้งคนรู้จักและอาจารย์ในโรงเรียน เพื่อจะนำมาจัดทำพิพิธภัณฑ์ โดยใช้พื้นที่ห้องเรียนจำนวน 3 ห้อง ในการจัดแสดงเนื่องจากโรงเรียนจำเป็นต้องใช้พื้นที่สร้างอาคารเรียนเพิ่มเติม  จึงย้ายข้าวของในพิพิธภัณฑ์ไปเก็บไว้ที่ห้องสมุดและตามกลุ่มสาระวิชาต่างๆ ลักษณะการจัดแสดงภายในมีทั้งแสดงวัตถุและภาพ    ส่วนสิ่งของจัดแสดง เช่น  เครื่องเบญจรงค์ อาวุธในวรรณคดีไทย เครื่องเขิน เครื่องทองเหลือง และยังมีตู้จัดแสดงสกุลเงินต่างๆ ทั้งเหรียญและธนบัตรของประเทศต่างๆ  หม้อดินประดับลายแกะสลักที่มีลายละเอียดและงดงามฝีมือชาวมอญที่เรียกว่า หม้อทะนน  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนด้วย  งานศิลปะจำลองบ้านเรือนไทยฝีมือของอาจารย์สุธาทิพย์ ศุกระโยธิน และนักเรียนในวิชาศิลปะ ด้านนอกของศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนตกแต่งด้วยเรือเก่าและเครื่องปั้นดินเผา และจัดสวนหย่อมรอบๆ ไว้อย่างร่มรื่น

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์ดาวเทียม

พิพิธภัณฑ์ดาวเทียม ก่อตั้ังโดยบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับอวกาศ และการสื่อสารผ่านดาวเทียม โดยเปิดให้คณะบุคคลต่างๆ สามารถเข้าเยี่ยมชมทัศนศึกษา รวมทั้งเปิดเป็นศูนย์ความรู้ทางดาวเทียม ให้แก่เยาวชนได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาหาความรู้ เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติในทุกๆ ปี ภายในห้องพิพิธภัณฑ์ดาวเทียมแบ่งออกเป็น 6 โซนที่สำคัญได้แก่ โซนที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับวงโคจรดาวเทียม (Satellite Orbits) โซนที่ 2 ดาวเทียม จรวด และฐานยิงจรวดที่สำคัญ โซนที่ 3 ข้อมูลเกี่ยวกับดาวเทียมไทยคม เป็นโซนที่แสดงข้อมูลของดาวเทียมไทยคมทั้ง 3 ดวงได้แก่ดาวเทียมไทยคม 1A ดาวเทียมไทยคม 2 และดาวเทียมไทยคม 3 โซนที่ 4 ข้อมูลเกี่ยวกับไอพีสตาร์ เทคโนโลยีดาวเทียมบรอดแบนด์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก และเป็นดาวเทียมดวงที่ 4 ของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานด้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โซนที่ 5 การประยุกต์ใช้งานดาวเทียม เป็นโซนที่ผู้เข้าชมจะได้ชมการสาธิตการประยุกต์ใช้งานดาวเทียมในด้านต่างๆ โซนที่ 6 โดมกลาง เป็นการแสดงโมเดลจำลองของดาวเทียมสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อการพาณิชย์ในวงโคจรค้างฟ้าจำนวนกว่า 223 ดวง ที่โคจรอยู่รอบโลก

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์เครื่องจักรกลกรมชลประทาน

พิพิธภัณฑ์เครื่องจักกล กรมชลประทาน ถือกำเนิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ ประการแรกคือนำเสนอผลงานและวิวัฒนาการของกรมชลประทาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีประวัติและวิวัฒนาการมายาวนานถึง 105 ปี โดยมีงานเครื่องจักร เป็นตัวจักรสำคัญขับเคลื่อนการปฎิบัติงานให้ลุล่วงตามภารกิจ ประการต่อมาคือ เพื่อรำลึกถึงและเชิดชูเกียรติ นายจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตองคมนตรี ซึ่งเป็นปูชณียบุคคล ผู้มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนางานเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ให้ก้าวเข้าสู่ยุคทอง ลักษณะการจัดแสดงคือ มีทั้งเลักษณะพิพิธภัณฑ์ฺกลางแจ้ง ที่จัดแสดงเครื่องมือ เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ใช้งานในระบบชลประทานของกรมชลประทาน ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน และนิทรรศการภายในอาคารนำเสนอ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานชลประทาน เอกสารสำคัญ

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์วัดต้นเชือก

วัดต้นเชือกเป็นวัดเก่าแก่ของนนทบุรี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2324 มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือคือ หลวงพ่อวิหาร พระประธานในวิหาร ซึ่งสร้างในสมัยอยุธยา นอกจากนี้อดีตเจ้าอาวาสสำคัญของวัด 3 รูปยังได้รับความนับถือและศรัทธาจากชาวบ้าน พิพิธภัณฑ์วัดต้นเชือก ริเริ่มโดยอดีตนายก อบต. บ้านใหม่ ที่ต้องการอนุรักษ์ข้าวของและเรื่องราวในอดีตให้เด็กรุ่นหลังได้รู้ เช่นเรื่องกุฏิสามเจ้าอาวาส โดยของที่จัดแสดงมีทั้งของวัดและคนที่บริจาครวมถึงซื้อหาเข้ามาเพิ่มเติม อาทิ และเนื่องจากบ้านใหม่ได้รับการกล่าวถึงในนิราศพระแท่นดงรัง ของท่านสุนทรภู่ พิพิธภัณฑ์จึงนำเสนอ ชีวิตและงานของสุนทรภู่ และนำคำกลอนมาจัดแสดง

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์วัดบางอ้อยช้าง

พิพิธภัณฑ์วัดบางอ้อยช้างเป็นอาคารกุฏิเดิมของพระครูนนทวัตรวิบูลย์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มและร่วมกับชาวบ้านบางอ้อยช้างในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ ราว พ.ศ. 2542 ลักษณะเด่นของพิพิธภัณฑ์คือ ยังใช้เป็นอาคารฉันท์สำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่ชั้นล่างขออาคาร ซึ่งได้มีการให้อาคารเป็นเรือนปูน ส่วนในชั้นที่ 2 และ 3 เป็นบริเวณจัดแสดงวัตถุข้าวของของพิพิธภัณฑ์ ตัวอาคารเป็นเรือนไม้ที่มีมุขด้านหน้ายื่นจากส่วนหลัก และเป็นบันไดขึ้นสองทาง ภายในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 ชั้นได้รวบรวมมรดกของเก่าล้ำค่าไว้มากมาย เช่น สมบัติมีค่าอันเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา เครื่องถ้วยชามของจีนในสมัยราชวงศ์ชิงและสมุดข่อยโบราณ ชุดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวสวนเมืองนนท์ เช่น หม้อไว้เพาะทุเรียน หม้อหุงข้าว ไห โอ่งทำมือยุคแรกของจีนมีสีเขียวหยก เป็นต้น

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์จันเสน วัดจันเสน

จันเสนเป็นเมืองโบราณสมัยทวาราวดีตอนต้นที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริเวณเมืองโบราณนี้ได้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมาก หลักฐานทางโบราณคดีดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานของชุมชน สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในท้องถิ่น นำไปสู่ความร่วมไม้ร่วมมือของคนในชุมชนในการช่วยกันเก็บรักษาสิ่งของ และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ให้คนทั่วไปได้ทราบ ผ่านการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจันเสน โดยจัดแสดงในชั้นล่างของ “พระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันเสน” การจัดแสดงมีทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของชุมชนจันเสน โบราณวัตถุที่ขุดค้นพบจากเมืองโบราณจันเสน พัฒนาการและการขยายตัวของชุมชนจันเสน ตลอดจนภูมิปัญญาของคนในชุมชน และจบด้วยประวัติของ “พระครูนิสัยจริยคุณ” หรือหลวงพ่อโอด อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการผลักดันให้เกิดพิพิธภัณฑ์ มีรูปหล่อของท่านไว้ตรงกลางห้องเพื่อให้เป็นที่เคารพสักการะ เพดานของอาคาร เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจของพิพิธภัณฑ์คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆในพิพิธภัณฑ์ ได้รับความร่วมมือจากงานวิจัยและการลงภาคสนามของทีมนักวิชาการจากมูลนิธิ เล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ นอกจากนี้ยุวมัคคุเทศก์จากโรงเรียนจันเสนฯเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ รวมถึงสินค้าในชุมชนที่เกิดขึ้นจากการผลักดันของพิพิธภัณฑ์และเจ้าอาวาส โดยเฉพาะผ้าทอที่กลุ่มสตรีทอผ้าคิดค้นลายผ้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของชุมชน และกลุ่มจักสานที่สืบสานจากรุ่นสู่รุ่น

จ. นครสวรรค์