รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์ไฮเนเก้น

เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนก่อตั้งบริษัทไทยเอเชียแปซิฟิก บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่และเรียนรู้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเบียร์ รวมทั้งเป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการแบ่งเป็น 3 ส่วนที่ 1 เรื่องกำเนิดเบียร์ กล่าวถึงรสนิยมของการบริโภคเบียร์ของคนยุคสมัยต่าง ๆ ส่วนที่2 กำเนิดไฮเนเก้น กล่าวถึงประวัติการคิดค้น ความเป็นมาเกี่ยวกับเบียร์ไฮเนเก้น และส่วนที่3 นำเสนอความก้าวหน้าของบริษัท กล่าวถึงพันธกิจและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนในกิจกรรมทางสังคมของบริษัท

จ. นนทบุรี

สวนนกชัยนาท

สวนนกชัยนาท สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยมาจากแนวคิดของผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น ด้วยความคาดหวังพัฒนาจังหวัดชัยนาทให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่จังหวัดและนำความเจริญทางด้านเศรษฐกิจกระจายลงสู่ท้องถิ่น ปัจจุบันสวนนกชัยนาทถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างชื่อให้จังหวัดด้านการอนุรักษ์พันธุ์นก อีกทั้งจัดแสดงหุ่นฟางนกเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท บนพื้นที่รวม 248 ไร่ ของสวนนกชัยนาท มีแหล่งเรียนรู้สำคัญได้แก่ กรงนกใหญ่ที่สุดในเอเชีย วิหารหลวงปู่ศุข อาคารแสดงพันธุ์ปลาลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี หน้าผาน้ำตกจำลองเพื่อป้องกันดินพังทลาย อาคารไทยบริเวณด้านหน้าสวนนกชัยนาทแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นจังหวัดชัยนาท(ศูนย์ OTOP)และศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท

จ. ชัยนาท

ตำหนักประถม-นนทบุรี

ตำหนักประถมเดิมสร้างขึ้นใน พ.ศ.2462 เป็นตำหนักแรกภายในวังเพชรบูรณ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพชรบูรณ์อินทราชัย (พ.ศ.2435-2466) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมวังเพชรบูรณ์ตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ ต่อมาใน พ.ศ.2527 พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสุทธสิริโสภาพระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ ได้ขอพระราชทานรื้อถอนบางส่วนเพื่อชะลอมาไว้ที่ตั้งปัจจุบัน ตัวอาคารเป็นไม้สักใต้ถุนสูงผสมผสาน รูปแบบสถาปัตยกรรมโดเมสติกรีไววัล ด้านหน้าหลังคาจั่ว ด้านข้างเป็นจั่วปาดมุมมุงกระเบื้องว่าว และมีอาคารหลังเล็กรูปแบบเดียวกัน สร้างอยู่ริมน้ำ การตกแต่งภายในตำหนักประถมในปัจจุบัน เป็นไปตามจินตนาการถึงวิถีชีวิตของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ ศิลปินไทยพระองค์แรกที่ทรงเรียนเล่นพิณฝรั่งหรือฮาร์พ เครื่องเรือนบางชิ้นเป็นของเก่าดั้งเดิม อาทิ เตียง โคมไฟ บางดวง รวมทั้งเครื่องฮาร์พซึ่งมีอายุเกือบ 100 ปี รวมทั้งเครื่องประดับประดา สิ่งละอันพันละน้อย ล้วนเป็นมรดกตกทอดภายในครอบครัวนานประมาณสี่ชั่วอายุคน อาคารไม้สักหลังใหญ่อีกหลังหรือที่เรียกว่า "ตำหนักใหม่" ที่ต่อเติมจากตำหนักประถมนั้นประกอบขึ้นใหม่ใน พ.ศ.2534 โดยนายญาณี ตราโมท ลักษณะเด่นของอาคารหลังนี้คือ ห้องโถงปิดลายทอง ที่บูรณะใหม่โดยช่างกรมศิลปากร

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์วัดปรมัยยิกาวาส

วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร เดิมชื่อวัดปากอ่าว เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ถูกทิ้งร้างหลังจากคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 จนถึงพ.ศ. 2317 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดเกล้าฯให้ชาวมอญมาตั้งบ้านเรือนที่เกาะเกร็ด มีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอารามนี้ใหม่ว่า "วัดปรมัยยิกาวาส" (ปรมัยยิกาวาส คือ บรม+อัยยิกา+อาวาส) พิพิธภัณฑ์วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร เป็นอาคารสองชั้นซึ่งแต่เดิมเป็นกุฎิของอดีตเจ้าอาวาส สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ชั้นล่าง จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาเป็นหลัก โดยได้จำลองเตาเผาและหุ่นจำลองของช่างทำเครื่องปั้นดินเผาไว้ มีมุมฉายวีดิทัศน์เรื่องราวต่าง พื้นที่ส่วนใหญ่ในอาคารจัดแสดงวิวัฒนาการของเครื่องปั้นดินเผาที่พบในประเทศไทย และมีตัวอย่างของเครื่องปั้นดินเผาในภาคต่าง ๆ จัดแสดงด้วย ชั้นบน ประกอบไปด้วยสิ่งของหลากหลายประเภท ชิ้นสำคัญอาทิ สิ่งของในพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ซึ่งหลังจากสิ้นพระชนม์แล้ว ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 นำมาถวายไว้ เนื่องแต่วัดนี้เป็นวัดที่เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จทอดพระเนตรและปฏิสังขรณ์ และให้อยู่ภายในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอฯ รวมถึงสิ่งของที่อดีตเจ้าอาวาสได้รับการถวายมาเนื่องในวาระสำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี สิ่งของในวัฒนธรรมประเพณีมอญ เป็นต้น นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโรงทำลูกหนู ซึ่งอยู่ใกล้กับวิหาร เป็นโรงที่ทางวัดเคยทำลูกหนู ยังมีอุปกรณ์การทำลูกหนู และกระบอกลูกหนูให้ชมด้วย

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา (บ้านกวานอาม่าน)

การทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นอาชีพของชาวมอญมาแต่ครั้งตั้งถิ่นฐานแถบลุ่มน้ำอิรวดี เอกลักษณ์ของศิลปะสกุลช่างเกาะเกร็ดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคือ โอ่งสลัก หรือหม้อสลัก หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า "หม้อลายวิจิตร" ที่มีสัดส่วนและการตกแต่งงดงาม หม้อลายวิจิตร รวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาที่เคยใช้ในอดีต ได้รับการจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่ง "บ้านกวานอาม่าน" ซึ่งหมายถึงหมู่บ้านช่างปั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ริเริ่มโดยคุณพิศาล บุญผูก ซึ่งเป็นชาวเกาะเกร็ดโดยกำเนิด มีความรู้และเชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และภาษามอญ โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็นบ้านพักอาศัยเป็นสถานที่จัดแสดง

จ. นนทบุรี

ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอไทรน้อย ร.ร.ไทรน้อย

ชุมชนไทรน้อยแต่เดิมคือบริเวณที่เรียกว่าป่ากระทุ่มมืด มีผู้คนเข้ามาตั้งรกรากและบุกเบิกพื้นที่ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองทวีวัฒนาและคลองนราภิรมย์ระหว่าง พ.ศ. 2420-2423 จึงเริ่มมีชาวเมืองนนทบุรีและชาวบ้านจากถิ่นอื่นเข้าไปจับจองที่ดินชายป่ากระทุ่มมืดด้านใต้ตามสองฝั่งคลองนั้นจากนั้นพระราชาภิมณฑ์ (เพ็ง) ได้ขุดคลองพระราชภิมณฑ์ (ปัจจุบันเรียกว่าคลองพระพิมล) จากคลองบางบัวทองตอนปลายตรงเข้าไปในป่ากระทุ่มมืด ระหว่างนั้นยังคงมีราษฎรเข้าไปตั้งหลักแหล่งและบุกเบิก แผ้วถางป่าอย่างไม่ขาดสาย ป่ากระทุ่มมืดที่กว้างใหญ่ค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพเป็นผืนนาและเกิดชุมชนชาวนากระจายอยู่ทั่วไป อำเภอไทรน้อย นั้นเดิมอยู่ในการปกครองของอำเภอบางบัวทอง ปี พ.ศ. 2499 แยกการปกครองไปจากอำเภอบางบัวทอง โดยใช้ชื่อว่าอำเภอไทรน้อย ส่วนศูนย์วัฒนธรรมอำเภอไทรน้อย ตั้งอยู่ภายในโรงเรีียนไทรน้อยซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอ จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านที่เกี่ยวกับการทำการเกษตร และประวัติความเป็นมาของพื้นที่

จ. นนทบุรี

พิพิธภัณฑ์กรมพลาธิการทหารบก

ภารกิจของกรมพลาธิการทหารบก ส่วนใหญ่เป็นการตระเตรียม การสร้าง การจัดหา รวบรวมเก็บรักษาจัดหา เบิก-จ่ายเครื่องสรรพยุทธ ยุทธภัณฑ์ ยุทธอาภรณ์ ตลอดจน รับ-ส่ง สรรพสิ่งของต่างๆ ของกองทัพบก ซึ่งรวมถึงการรับ-ส่ง เครื่องภาชนะ เครื่องแต่งกาย เสบียงอาหาร และการจัดเลี้ยงให้แก่กองทหารโดยเฉพาะการจัดเลี้ยงให้แก่นายทหารระดับผู้ บังคับบัญชาชั้นสูง ซึ่งในอดีตส่วนใหญ่จะเป็นเจ้านายชั้นสูง ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการจัดหาภาชนะที่ดีมีคุณภาพมาใช้ในการจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นที่มาของวัตถุที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์กรมพลาธิการทหารบก เดิมวัตถุเหล่านี้เก็บรักษาไว้ในหลายพื้นที่ ต่อมาได้ถูกรวบรวมและเก็บรักษาไว้ณ กรมพลาธิการทหารบกในปัจจุบัน โดยการปรับปรุงพื้นที่เดิมของแผนกธุรการ กรมพลาธิการทหารบก ให้เป็นห้องพิพิธภัณฑ์ และเคลื่อนย้ายวัตถุโบราณ และเครื่องแต่งกายรวมทั้งสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการในอดีตจากห้องพิพิธภัณฑ์ชั่วคราว เข้าสู่พิพิธภัณฑ์ถาวร โดยวัตถุประสงค์หลัก คือ เป็นแหล่งรวบรวมเก็บรักษาวัตถุสิ่งของที่ใช้ในสายงานของพลาธิการในอดีต เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาและเห็นถึงขีดความสามารถ ในการพัฒนาสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการในอดีตจนถึงปัจจุบัน

จ. นนทบุรี