รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์วัดคลองแห

พิพิธภัณฑ์วัดคลองแห ตั้งอยู่ใน ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วัดคลองแหเป็นวัดเก่าแก่ของภาคใต้ สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2360 วัดคลองแหแห่งนี้โด่งดังมากในช่วงที่หลวงปู่ทองยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านเชื่อกันว่าท่านเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ อีกทั้งท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก สำหรับพิพิธภัณฑ์นั้นจัดตั้งขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชุมชน และมรดกภูมิปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งมีคุณค่า ความสำคัญ ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ชุมชน รวมทั้งเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่วัดคลองแห ภายในแบ่งการจัดแสดงเป็น 2 ส่วน คือ 1.พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ประกอบด้วย เรือนภูมิปัญญาคลองแห ศาลาการแสดงทางวัฒนธรรม สวนสมุนไพร การจัดการน้ำเสียและขยะ และพื้นที่ประวัติศาสตร์โคกหลังนกคุ่ม 2.พิพิธภัณฑ์ในร่ม แบ่งออกเป็น 7 ห้อง คือ ห้องเฉลิมองค์ราชา ห้องธาราเล่าขาน ห้องตำนานฆ้องแห่ ห้องผันแปรสู่เมือง ห้องรุ่งเรืองวัดคลองแห ห้องเผยแพร่วัฒนธรรม และห้องนำสู่อนาคต วัตถุทางวัฒนธรรมที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์วัดคลองแหเน้นการบอกเล่าเรื่องราวของชุมชน วิถีชีวิต ประเพณี เช่น ข้าวของเครื่องใช้ของชาวคลองแห ภาพถ่าย และ วัตถุที่ชาวบ้านนำมาถวาย

จ. สงขลา

พิพิธภัณฑ์บ้านปากน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านลุ่มน้ำบุ่งสระพัง

พิพิธภัณฑ์บ้านปากน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านลุ่มน้ำบุ่งสระพัง ตั้งอยู่ภายในวัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนที่แสดงให้เห็นถึงร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองในอดีต โดยในชุมชนได้มีการขุดพบโบราณวัตถุท่สำคัญ เช่น พระพิฆเณศวร์หินทราย ศิลปะขอม ราวพุทธศตวรรษที่ 13 เครื่องปั้นดินเผา เสมาหินทราย พระพุทธรูปหินทราย ยุคทวารวดี เป็นต้น ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการรวบรวมจัดแสดงเครื่องมือในการประกอบอาชีพของชาวบ้าน เช่น เครื่องมือดักสัตว์ อาทิ คันหลุบ ด้วงดักหนู แร้ว เครื่องมือจับสัตว์น้ำ อาทิ ชนาง ลอบนอน เป็นต้น และเครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ

จ. อุบลราชธานี

พิพิธภัณฑ์สงคราม อักษะ และเชลยศึก

พิพิธภัณฑ์สงคราม อักษะและเชลยศึก มีชื่อภาษาอังกฤษว่า THE JEATH WAR MUSEUM ต่อมาเป็นที่รู้จักกันว่า WAR MUSEUM หรือ พิพิธภัณฑ์สงคราม เป็นที่เก็บรวบรวมเอกสาร หลักฐาน ภาพเขียน ภาพถ่าย ตลอดจนเครื่องใช้สอยต่างๆ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์สร้างทางรถไฟสายมรณะกาญจนบุรี- พม่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยชื่อของพิพิธภัณฑ์ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เชลยศึกจากประเทศเหล่านั้นๆ ที่ต้องสังเวยชีวิต เพราะการสร้างทางรถไฟสายนี้กว่า 16,000 คน จนกระทั่งทางรถไฟสายนี้ได้รับการขนานนามจากบรรดาเชลยศึกว่า THE DEATH RAIL WAY หรือ “ทางรถไฟสายมรณะ” คำว่า JEATH เป็นคำย่อของคำว่า Japan (J) คือ ญี่ปุ่น ในฐานะกองทัพควบคุมเชลยศึกสงครามสร้างทางรถไฟ England (E) คือ อังกฤษ Australia, America (A) คือ ออสเตรเลียและอเมริกา Thailand (T) คือ ไทย ในฐานะเจ้าของประเทศ และ Holland (H) คือ ประเทศฮอลแลนด์

จ. กาญจนบุรี

พิพิธภัณฑ์วัดดงสัก

พิพิธภัณฑ์วัดดงสัก เป็นที่จัดเก็บโบราณวัตถุบางส่วนที่พบจากแหล่งโบราณสถานพงตึก ที่มีข้อสันนิษฐานว่า เคยเป็นเมืองโบราณรุ่งเรืองมากในสมัยทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11- 12 เนื่องจากในปี 2470 มีการขุดค้นพบวัตถุโบราณสมัยทวารวดีจำนวนมาก เช่น ตะเกียงทองสำริดโรมัน พระพิมพ์ดินเผา พระนารายณ์สลักจากศิลา พระพุทธรูป ฯลฯ ต่อมาในปี 2477 มีการสำรวจเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่า บริเวณนี้เคยเป็นเมืองโบราณที่มีความเจริญรุ่งเรืองจริง ปัจจุบันวัตถุที่ค้นพบบางส่วนถูกนำไปเก็บไว้ที่วัดดงสัก และบางส่วนอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ

จ. กาญจนบุรี

พิพิธภัณฑ์วัดทุ่งลาดหญ้า

วัดทุ่งลาดหญ้า หรือวัดลาดหญ้า มีประวัติศาสตร์เล่าถึงการสร้างวัด หลังจากสิ้นสงครามไทย-พม่า ในสมัยรัชกาลที่ 4 ประชาชนเริ่มมาตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนริมแม่น้ำแควใหญ่มากขึ้น การคมนาคมต้องใช้ทางน้ำสัญจรไปมาจากเมืองท่ากระดาน เมืองศรีสวัสดิ์ ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไป ต้องล่องไปตามแม่น้ำแควใหญ่ ผ่านบ้านลาดหญ้ามาเมืองกาญจนบุรีที่ปากแพรก ทำให้บริเวณบ้านลาดหญ้ามีชุมชนหนาแน่นขึ้น จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นบริเวณริมแม่น้ำแควใหญ่เพื่อเป็นที่สักการะบูชา ส่วนพิพิธภัณฑ์ภายในวัดนั้น ก่อตั้งเมื่อปี 2556 ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น รวมถึงวัตถุสิ่งของโบราณต่าง ๆ เช่น ตำรายาโบราณ ซากสัตว์โบราณ หม้อชาม และนิทานพื้นบ้านเรื่องขุนช้าง ขุนแผน เป็นต้น

จ. กาญจนบุรี

พิพิธภัณฑ์กรมที่ดิน

พิพิธภัณฑ์กรมที่ดิน เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงสิ่งของ เอกสารหลักฐานอ้างอิงที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของกรมที่ดิน นับแต่ปีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงมีพระบรมราชโองการ ประกาศตั้งกรมทะเบียนที่ดินขึ้น เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ร.ศ.120 (พ.ศ.2444) ทรงต้องการที่จะรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับอาณาเขตการปกครองของสยามในยุคนั้นให้เป็นรูปแบบและเป็นที่ยอมรับของตะวันตก กรมที่ดินจึงถือกำเนิดขึ้นในยุคนั้น ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการสร้างชาติให้เป็นปึกแผ่นโดยให้อยู่ในสังกัดกระทรวงเกษตราธิการ ซึ่งมีเจ้าพระยาเทเวศบุรีรักษ์ ต้นตระกูลกุญชร ณ อยุธยาเป็นเจ้ากระทรวงคนแรก   วัตถุชิ้นสำคัญคือ โฉนดที่ดินฉบับแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ออกที่ ต.บ้านแป้ง จ.พระนครศรีอยุธยา มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากเพราะถือเป็นหลักฐานของการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของกิจการที่ดินในประเทศไทย

จ. กรุงเทพมหานคร