รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร)

พิพิธภัณฑ์เด็ก สังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ทันสมัยภายใต้แนวคิด “Learning for Young Creative Mind” ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ (Method of Learning) ที่มีแรงจูงใจ (Motivation) ทีหลากหลาย ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง ได้แก่ 1.อาคารทอตะวัน เป็นอาคาร 3 ชั้น รูปทรงครึ่งวงกลม ส่วนกลางเป็นโถงโล่ง ชั้น 1-3 เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นิทรรศการความรู้ที่เหมาะสมกับเด็กในช่วงอายุ 7-12 ปี 2.อาคารสายรุ้ง เป็นอาคาร 2 ชั้น พื้นที่สร้างสรรค์นิทรรศการความรู้สำหรับเด็กและผู้ปกครองในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและปลอดภัยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กในช่วงอายุ 0-6 ปี

จ. กรุงเทพมหานคร

พิพิธภัณฑ์วัดเจดีย์หอย

พิพิธภัณฑ์วัดเจดีย์หอย  ก่อตั้งโดยเจ้าอาวาสวัดที่ท่านเป็นผู้ชื่นชอบสะสมของเก่าอยู่ก่อนแล้ว จึงจัดแสดงไว้บริเวณศาลา ต่อมาได้รับการบริจาคเพิ่มเติมจากชาวบ้านและคนที่มาเที่ยวชมซากดึกดำบรรพ์หอยนางรมยักษ์ที่ขุดพบในบริเวณวัด ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นศาลาชั้นเดียวเปิดโล่ง ภายในมีวัตถุสิ่งของสารพัดชนิดจัดแสดงอยู่ อาทิ ถ้วยชามดินเผา ตุ่มสามโคก หม้อ ไห สิ่งของเครื่องใช้พื้นบ้าน เปลือกหอยชนิดต่าง ๆ ใบเสมาของวัด กระดูกช้าง เชือกปะกำคล้องช้าง ส่วนของชิ้นเล็กอย่างลูกปัดโบราณ กำไล เครื่องมือสำริด เหรียญ ช้อนส้อมทองเหลือง ทัพพี อยู่ในตู้กระจก  นอกจากนี้ในวัดยังได้เก็บรากไม้ของต้นไม้ขนาดใหญ่ พระพุทธรูปอีกเป็นจำนวนมาก โต๊ะไม้แกะสลัก ไม้กลายเป็นหิน โม่หิน และอื่น ๆ

จ. ปทุมธานี

พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2

พื้นที่อำเภอขุนยวม ครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางเดินทัพของกองทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง พิพิธภัณฑ์ก่อตั้งโดยพันตำรวจโทเชิดชาย ชมธวัช เมื่อเข้ามารับแต่งตั้งหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนในปี พ.ศ. 2538 พบว่ามีเครื่องใช้ไม้สอยของทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กระจัดกระจายอยู่ตามบ้านคนและได้รวบรวมสะสมไว้ และได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน และจากเอกสารต่าง ๆ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 นายอำเภอขุนยวมร่วมกับพันตำรวจโทเชิดชายก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรมขึ้นเพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง แสดงสิ่งของเครื่องใช้ของทหารญี่ปุ่นที่ตนเองเก็บสะสมไว้ จากนั้นเริ่มมีคนบริจาคเพิ่มเติมทั้งจากชาวไทยและทหารผ่านศึกชาวญี่ปุ่น ของสำคัญชิ้นหนึ่งคือ ป้ายผ้าไหมญี่ปุ่น เขียนข้อความเป็นภาษาญี่ปุ่นกล่าวถึงเหตุผลที่ญี่ปุ่นต้องเข้าร่วมสงคราม ซึ่งเป็นลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต้ ที่ทรงพระราชทานแก่กองทัพญี่ปุ่น กล่าวกันว่ามีเพียง 5 ผืนเท่านั้น ต่อมาปี พ.ศ. 2549 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดแสดงใหม่ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากเทศบาล มีนิทรรศการ ที่แบ่งส่วนออกเป็นเรื่องราวในแง่มุมต่าง ๆ ของทหารญี่ปุ่น โดยจะมีข้าวของและภาพถ่ายเก่าที่หาชมได้ยากประกอบ เศษซากรถยนต์ หีบใส่ของ ที่สื่อถึงการคมนาคมและการลำเลียงสิ่งของของทหารญี่ปุ่น ชีวิตความเป็นอยู่ของทหารที่จัดแสดงผ่านบ้านพักของทหารญี่ปุ่นที่มีเสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว การตำข้าวและการหุงหาอาหาร อาวุธและเครื่องมือต่าง ๆ อาทิ ดาบปลายปืน เครื่องมือดับเพลิง หีบบรรจุสิ่งของ หม้อสนาม

จ. แม่ฮ่องสอน

พิพิธภัณฑ์ความทรงจำ วัดเชียงทอง

พิพิธภัณฑ์ความทรงจำ วัดเชียงทอง ริเริ่มโดยพระครูไพจิตธรรมาภรณ์ (อดุลย์) เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง ที่ท่านเป็นผู้ที่ชื่นชอบสะสมของเก่ามาตั้งแต่วัยเยาว์ก่อนจะบวชเป็นพระ จนกระทั่งเมื่อบวชเป็นพระในปีพ.ศ. 2523 จึงได้เริ่มนำข้าวของส่วนตัวที่สะสมและรวบรวมวัตถุต่างๆ ที่ชาวบ้านบริจาคมา และยังได้ร่วมแรงร่วมใจกับคนทั้งนอกและในชุมชนจัดทอดผ้าป่า ของเก่าทุกอย่างที่ชาวบ้านไม่ใช้นำมาทอดเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ความทรงจำแห่งนี้ จนมีมากกว่า 1,000 ชิ้น ของส่วนใหญ่เป็นของใช้ร่วมสมัยที่มีอายุ 20-80 ปี คือสมัยที่คุณตาคุณยายยังเด็ก อาทิ กล่องไม้ขีด โปสเตอร์ใบปิดหนัง ทีวีรุ่นเก่า กล่องสบู่ ผงซักฟอก รวมถึงจัดแสดงพระพุทธรูปไม้ เครื่องใช้ทางการเกษตร โดยท่านตั้งใจต้องการให้ผู้ชมได้มีโอกาสเห็นข้าวของเหล่านี้ เพราะในปัจจุบันหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าเมื่อใครได้มาเห็นก็จะเกิดความทรงในอดีตขึ้นมา ควบคู่กับยุคสมัยปัจจุบัน

จ. พะเยา