นกคุ่มทั้ง 7 ของวัดคลองแห

 

ช่วง ต้นเดือน (มีนาคม 2558) ที่ผ่านมา มีโอกาสเดินทางไปวัดคลองแห และเข้าชมศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชคลองแห ที่ปรับปรุงจากแหล่งเรียนรู้เดิมของชุมชนมาเป็นศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช ภายใต้โครงการ "ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช" ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ภายในจัดแสดงเรื่องราวเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และประวัติความเป็นมาของชาวคลองแห ผ่านห้องจัดแสดงทั้ง 7 ห้องคือ (1) ห้องเฉลิมองค์ราชา (2) ธาราเล่าขาน (3) ตำนานฆ้องแห่ (4) ผันแปรสู่เมือง (5) รุ่งเรืองวัดคลองแห (6) เผยแพร่วัฒนธรรม และ (7) นำสู่อนาคต

นอกจากวัดคลองแหจะมีพิพิธภัณฑ์ในร่ม (ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชคลองแห) แล้ว ทางวัดยังมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น เรือนภูมิปัญญาคลองแห สวนสมุนไพร ฝายดักขยะ และโคกหลังนกคุ่ม ให้คนที่ไปเที่ยวชมได้เรียนรู้เรื่องของชาวคลองแหในแง่มุมต่างๆ อย่างครบถ้วน และเพื่อให้การชมแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมไม่น่าเบื่อจนเกินไป ทางวัดจึงได้นำเอาความเชื่อเรื่อง "นกคุ่ม" กับทรัพย์สมบัติในตำนานโคกหลังนกคุ่ม มาเป็นแนวคิดจัดทำ "ลายแทงขุมทรัพย์" ขึ้น โดยให้นกคุ่มตัวที่ 1 ถึงตัวที่ 7 ชี้ทางให้ผู้มีบุญค้นหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ภายในวัดคลองแห เมื่อตามได้จนครบ 7 ตัว ก็จะได้รับ "สมบัติ" (รางวัล) จากทางวัด+

เมื่อมาถึงที่ มีหรือที่พวกเราจะพลาดการเดินตามลายแทงเพื่อหาสมบัติ คำใบ้ในการตามหานกคุ่มทั้ง 7 มาเป็นกลอนแปดด้วยภาษาสวยงาม (สมกับเป็นบ้านของศิลปิน- ครูหนังตะลุง ครูโนรา) อธิบายชื่อนก บอกพิกัดที่ตั้งของนกอย่างชาญฉลาด อย่างนกคุ่มตัวที่ 2 คำใบ้บอกว่า
             
                นกคุ่มตัวที่สองงามผ่องผุด                อยู่ห้องสุดที่ท้ายของปลายห้อง
  "นำสู่อนาคต" ท้าทดลอง                                นาม "สกุณีคูหา" สง่างาม
               ได้เรียนรู้วิถีวัฒนธรรมของท้องถิ่น      ศิลปินภูมิปัญญาน่าเกรงขาม
    มรดกตกทอดมาสง่างาม                               จงไปถาม "คามาวิหกหลง"  เดินลงไป

นกคุ่มตัวที่ 1 และตัวที่ 2 ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยว่า หน้าตาของนกคุ่มที่ต้องตามหาเป็นเช่นนี้... (แอบเฉลยให้) >.<  
 

               

                  นกคุ่มตัวที่ 1 อยู่หน้าศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช                   



นกคุ่มตัวที่ 2 อยู่ในศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช

 
ถ้าให้แต่คำใบ้ก็ดูจะโหดร้ายเกินไป ทางวัดจึงจัดทำแผนที่จุดที่นกคุ่มจะปรากฎกายให้ด้วย  ก็ (เช่นเคย) ถ่ายรูปมาฝาก ท่านที่จะตามหาก็สามารถอ่านคำใบ้และดูแผนที่ได้เลย แล้วก็จะพบกับสมบัติของวัดคลองแหที่แอบซ่อนไว้
 

                                             คำใบ้ในลายแทง                                             


แผนที่ขุมทรัพย์

 
ระหว่างที่ออกตามหาสมบัติก็มีคำถามว่า "ทำไมต้องนกคุ่ม??" "ใช่..นกคุ่มกันไฟที่คนนิยมตั้งบูชาที่หิ้งพระตามบ้านหรือไหม??" แล้วก็ได้คำตอบว่า "นกคุ่ม" ของวัดคลองแหมาจากตำนานโคกหลังนกคุ่ม ซึ่งสัมพันธ์กับประวัติความเป็นมาของคนคลองแหที่เป็นเรื่องเล่าๆ ต่อๆ กันมาว่า เมื่อครั้งที่จะมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เมืองมะตะเลิง หรือ ตามพรลิงค์ (หรือเมืองนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน) ผู้คนที่อาศัยอยู่ตามหัวเมืองมลายู (กลันตัน ตรังกานู และไทรบุรี) ต้องการเอาสมบัติ แก้ว แหวน เงิน ทอง ไปร่วมทำบุญ จึงได้ออกเดินทางพร้อมขบวนแห่ จนมาถึงบริเวณเนินสามเหลี่ยมที่คลองทั้งสองสายมาบรรจบกัน (วัดคลองแหในปัจจุบัน) ก็ทราบข่าวว่า งานบรรจุพระธาตุได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะที่เดินทางมาก็ไม่คิดจะนำสมบัติกลับ จึงฝังสมบัติไว้บริเวณเนินนั้น พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอถวายเป็นพุทธบูชา เช่นเดียวกับเครื่องดนตรีที่อยู่ในขบวนแห่ก็จมลงในคลอง จึงเป็นที่มาของชื่อคลองว่า "คลองฆ้องแห่" ต่อมาก็เพี้ยนตามกาลเวลาจนกลายเป็น "คลองแห" ในปัจจุบัน

ส่วนบริเวณเนินที่ฝังสมบัติก็กลายเป็นกองดินสูงขึ้น มีรูปร่างคล้ายนกคุ่มที่กำลังนอนหมอบอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกกองดินดังกล่าวว่า "โคกหลังนกคุ่ม" และเชื่อว่า มีวิญญาณที่ชาวบ้านเรียกว่า "งูทวด" สิงสถิตคอยเฝ้าสมบัติอยู่
 

 

 

โคกหลังนกคุ่ม ที่อยู่ของนกคุ่มตัวที่ 6

 
นอกจากความเชื่อเรื่อง "โคกหลังนกคุ่ม" แล้ว นกคุ่มยังผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนบ้านคลองแหไม่น้อย เป็นทั้งอาหารและแหล่งรายได้ในการหาเลี้ยงชีพ อย่างที่พ่ออุดม เพ็ชรธนู บอกว่า "...เลี้ยงลูกมาจนโตได้ก็เพราะนกคุ่มนี่แหละ..." เพราะนอกจากจะหาไว้กินแล้ว ยังหาไปขายด้วย หลักฐานความรุ่งเรืองในการหานกคุ่มที่ปรากฎคือ "กรงดักนกคุ่ม" ที่สวยงาม ที่เมื่อก่อนมีกันทุกบ้าน เนื่องจากนกคุ่มเป็นนกขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายนกกระทา ชอบหากินที่พื้นดิน ดังนั้นกรงดักนกคุ่มจึงมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกรงจับนกเขา แล้ววิธีดักก็จะนำไปวางตามพื้นดินแทนการแขวนบนต้นไม้ พ่ออุดมบอกว่า ปัจจุบันกรงดักนกคุ่มเหลือน้อยมาก เพราะไม่ค่อยมีนกให้ดักแล้ว ประกอบกับช่างทำกรงก็หายากเต็มที ดังนั้นศูนย์วัฒนธรรมฯ จึงนำกรงดักนกคุ่มมาจัดแสดงไว้ให้ลูกหลานได้เข้าใจว่า เมื่อก่อนนกคุ่มมีความสำคัญอย่างไรกับชีวิตคนคลองแห
   




กรงดักนกคุ่มที่จัดแสดงในศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชคลองแห

 
แน่นอนว่า ก่อนกลับ เราได้ "รางวัล" จากการตามหานกคุ่ม (หน้าบานกว่าเดิม...)  หลังจากพยายามเดินตามหาจนทั่ววัด เราพบว่า วิธีคิดให้ผู้ชมเล่นเกมส์เดินตามหานกคุ่มในลายแทงขุมทรัพย์นั้น เป็นแผนการอันแยบยลของคนคิดที่ทำให้ผู้เล่น (เรา) ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญา ความเชื่อ ความศรัทธา ตลอดจนวิถีปฏิบัติของผู้คนชาวคลองแหได้อย่างสนุกสนานและไม่น่าเบื่อ แถมเป็นวิธีการนำเสนอ “ของดี” บ้านตัวเองอย่างพอดี คือ ไม่ยัดเหยียดให้ชมจนเกินไป ฉลาดมากๆ ค่ะ...

ดังนั้นขอเชิญชวนนะคะ ถ้ามีโอกาสไปหาดใหญ่ สงขลา อย่าลืมแวะวัดคลองแหเพื่อตามหา "นกคุ่มทั้ง 7" แล้ว...ท่านจะพบกับ "สมบัติ" อย่างที่ใจปรารถนา
 
ปล. เฉลยนกคุ่มให้แล้ว 2 ตัว ส่วน 5 ตัวที่เหลือ หน้าที่ท่านหาค่า.... ^^

ภาพถ่ายโดย : เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์, จุฑามาศ ลิ้มรัตนพันธ์

อ้างอิง :

-

ชื่อผู้แต่ง : จุฑามาศ ลิ้มรัตนพันธ์