โรมัน...มังสวิรัติ?


ทนงศักดิ์ เลิศพิพัฒน์วรกุล 18 ม.ค. 2015

เมื่อกล่าวถึง “แกลดิเอเตอร์” (gladiator) หรือนักสู้ที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชมในสมัยโรมันนั้น หลายคนคงนึกถึงภาพชายหนุ่มตัวใหญ่แข็งแรงหุ่นล่ำเหมือนอย่างพระเอกในภาพยนตร์ Gladiator ที่เข้าฉายไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน

และคงคิดต่อไปว่านักสู้เหล่านี้ต้องได้รับการบำรุงด้วยอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วง เหมือนกับนักกีฬาสมัยปัจจุบันที่ต้องสร้างกล้ามเนื้อด้วยการบริโภคโปรตีนพร้อมด้วยของบำรุงร่างกายต่างๆ

 

การต่อสู้ของแกลดิเอเตอร์

ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Gladiator

 

แต่จากการศึกษาโครงกระดูกแกลดิเอเตอร์ที่เมืองโบราณเอฟิซัสชี้ให้เห็นว่า อาหารในชีวิตประจำวันของแกลดิเอเตอร์เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารมังสวิรัติ

เมืองเอฟิซัสหรือเอฟิซุส (Ephesus, Ephesos) หรือเอเฟส (Efes) เป็นเมืองโบราณสมัยโรมันที่ในอดีตมีประชากรมากกว่า 200,000 คน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของจักรวรรดิโรมัน (รองจากโรม) และเป็นเมืองหลวงของเขตการปกครองจักรวรรดิโรมันในเอเชีย ปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศตุรกี

การขุดค้นของนักโบราณคดีในเมืองเอฟิซัสเมื่อ ค.ศ.1993 พบสุสานและโครงกระดูกชาวโรมันที่มีอายุอยู่เมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 2-3 ทั้งเพศชายและหญิง ทั้งที่เป็นและไม่ได้เป็นแกลดิเอเตอร์ (ทราบได้จากลักษณะของสุสาน)

แผนที่แสดงที่ตั้งเมืองเอฟิซัส และผังบริเวณหลุมขุดค้นเมื่อปี 1993

ที่มา : http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2801412/roman-gladiators-ate-vegetarian-diet-washed-sports-drink-plant-ashes-vinegar.html

 

 

สุสานและโครงกระดูกแกลดิเอเตอร์

ที่มา http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2801412/roman-gladiators-ate-vegetarian-diet-washed-sports-drink-plant-ashes-vinegar.html

 

Prof. Fabian Kanz หัวหน้าคณะนักวิจัย พร้อมด้วยนักวิจัยจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ (Forensic Medicine) มหาวิทยาลัยแพทย์แห่งเวียนนา (Medical University of Vienna) และภาควิชามานุษยวิทยา สถาบันนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเบิร์น (University of Bern) วิเคราะห์โครงกระดูกที่ได้จากการขุดค้น 53 โครง (ในจำนวนนี้เป็นแกลดิเอเตอร์ 22 โครง)  โดยใช้เครื่องมือวัดปริมาณและคุณสมบัติของสารเคมี หรือสเปกโตรสโคปี (spectroscopy) วัดสัดส่วนของไอโซโทปเสถียร (stable isotope ratio) (โดยเฉพาะระดับของคาร์บอน ไนโตรเจน และซัลเฟอร์) ในคอลลาเจนของกระดูก และตรวจสอบสัดส่วนของสตรอนเชียม (strontium) ต่อแคลเซียม (calcium) ในแร่ธาตุของกระดูก

ผลจากการวิเคราะห์ไอโซโทปเสถียรทำให้ได้ข้อมูลว่า.....

ชาวโรมันในเมืองเอฟิซัส (ทั้งที่เป็นและไม่เป็นแกลดิเอเตอร์) กินอาหารจำพวกพืชผัก โดยเฉพาะเมล็ดธัญพืชประเภทข้าวบาร์เลย์และข้าวสาลีเป็นอาหารหลัก รวมถึงถั่วบางชนิด (legumes) มีส่วนน้อยที่กินข้าวฟ่าง ซึ่งแตกต่างไปจากแกลดิเอเตอร์ในพื้นที่อื่นๆ ของโรมัน ที่นิยมอาหารประเภทเนื้อสัตว์

(มีศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกบุคคลที่รับประทานอาหารประเภทนี้ว่า hordearii หรือ barley eater หรือ barley men)   

ผลจากการวิเคราะห์สตรอนเชียมและแคลเซียม ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า.....

แกลดิเอเตอร์จะดื่มเครื่องดื่มที่พิเศษกว่าชาวเมืองคนอื่นๆ คือ เครื่องดื่มที่เป็นส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกับขี้เถ้าพืช ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเยียวยากระดูกได้เป็นอย่างดี

Prof. Kanz กล่าวว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ปรากฏอยู่ในงานเขียนและเอกสารทางประวัติศาสตร์ต่างๆ สรรพคุณเปรียบเทียบได้กับยาเม็ดบำรุงร่างกายในปัจจุบัน ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน

อย่างไรก็ตาม คณะนักวิจัยยังพบอีกว่า มีเจ้าของโครงกระดูก 2 โครงที่กินอาหารแตกต่างกันออกไปจากชาวเมืองส่วนใหญ่ คือกินอาหารประเภทโปรตีนหรือเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก โครงหนึ่งเป็นแกลดิเอเตอร์ อีกโครงหนึ่งเป็นผู้หญิงที่ถูกฝังอยู่ในสุสานร่วมกับแกลดิเอเตอร์

หลักฐานนี้อาจแสดงถึงการอพยพของชาวโรมัน โดยเฉพาะแกลดิเอเตอร์ กล่าวคือ บุคคลทั้งสองอาจอพยพย้ายถิ่นมาจากดินแดนส่วนอื่นของโรมัน (ที่รับประทานเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก) เข้ามาตั้งรกรากที่เมืองเอฟิซัส (ที่ประชากรรับประทานเมล็ดธัญพืชเป็นอาหารหลัก)

นักวิจัยให้ความสำคัญกับประเด็นการอพยพย้ายถิ่นอย่างมาก โดยในอนาคตจะดำเนินการศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลกระดูกของชาวโรมันในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติม และจะนำไปวิเคราะห์ร่วมกับการศึกษาด้านอื่นๆ เช่น การวิเคราะห์กระดูกสัตว์ ฯลฯ

รวมไปถึงการแปลความเชื่อมโยงประเด็นเรื่องอาหารกับข้อมูลด้านอื่นๆ เช่น ช่วงเวลาที่แกลดิเอเตอร์กินอาหารที่แตกต่างออกไปจากชาวเมืองทั่วไปนั้น อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แกลดิเอเตอร์ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนสอนการต่อสู้ เป็นต้น

 

(สามารถอ่านรายละเอียดการวิเคราะห์ไอโซโทปได้ที่ http://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0110489)

 

ทนงศักดิ์ เลิศพิพัฒน์วรกุล เรียบเรียงจาก

http://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0110489

http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2801412/roman-gladiators-ate-vegetarian-diet-washed-sports-drink-plant-ashes-vinegar.html

http://www.sciencedaily.com/releases/2014/10/141020090006.htm

http://www.bbc.com/news/education-29723384

http://www.sciencedaily.com/releases/2014/10/141020090006.htm