โพสต์เมื่อ 30 ม.ค. 2022
ชื่ออื่น : วัดวิหาร, วัดหาน, วัดถ้ำคีรีวิหาร
ที่ตั้ง : เลขที่ 2 ม.7 บ้านคีรีวิหาร
ตำบล : เขากอบ
อำเภอ : ห้วยยอด
จังหวัด : ตรัง
พิกัด DD : 7.799559 N, 99.549432 E
เขตลุ่มน้ำหลัก : ตรัง
เขตลุ่มน้ำรอง : คลองยางยวน
จากที่ว่าการอำเภอห้วยยอด ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าจังหวัดกระบี่ (มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก) ประมาณ 8.8 กิโลเมตร จะพบถนนเข้าสู่วัดคีรีวิหารทางขวามือ (ตามป้ายวัดคีรีวิหาร หรือตามป้ายบ้านชา) (ต้องกลับรถมาเข้าถนนเส้นนี้) เลี้ยวเข้าใช้ถนนเส้นนี้ประมาณ 1.4 กิโลเมตร จะพบวัดคีรีวิหารทางซ้ายมือ
สามารถเข้าเยี่ยมชมโบราณวัตถุโบราณสถาน และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
วัดคีรีวิหาร, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 หน้า 3685 วันที่ 8 มีนาคม 2478
วัดคีรีวิหารเป็นวัดที่ยังคงมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ทางทิศใต้ของวัดติดคลองยางยวน ลำน้ำสาขาของแม่น้ำตรังที่อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร
เพิงผาที่ภูเขาหินปูนขนาดเล็กที่อยู่ในเขตพื้นที่วัด ที่พบหลักฐานทางโบราณคดีตั้งแต่ต้นยุคประวัติศาสตร์ และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของวัดนั้น ปัจจุบันได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากทางวัด
แม่น้ำตรัง, คลองยางยวน
ตะกอนหินเชิงเขาและตะกอนผุพังอยู่กับที่ (กรมทรัพยากรธรณี 2565) และเขาหินปูนขนาดเล็ก ในกลุ่มหินราชบุรี ยุคเพอร์เมืยน อายุประมาณ 245-286 ปีมาแล้ว
วัดคีรีวิหาร เป็นวัดราษฎร์ ฝ่ายมหานิกาย มีชื่อเดิมว่า “วัดหาน” เป็นวัดเก่าแก่และวัดสำคัญวัดหนึ่งของอำเภอห้วยยอด สร้างเมื่อ พ.ศ.2374 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2445 และ 4 มกราคม 2483 (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 2565; ภาณุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ และคณะ 2565: 122)
ชื่อ วัดหาน อาจมีที่มาจากมีห่านปั้นไว้ 2 ตัว เป็นกระเบื้อง ตั้งอยู่บนภูเขา และคงจะเรียกเพี้ยนมาจากคำว่า ห่าน ซึ่งภายหลังห่านดังกล่าวได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว มีผู้รู้บางท่านเล่าว่า วัดคีรีวิหารนี้ สร้างขึ้นพร้อมกับระยะเวลาสร้างพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะมีโบราณวัตถุในวัดนี้หลายชิ้น (กรมศิลปากร 2565)
จากจดหมายเหตุระยะทางไปตรวจราชการของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้บันทึกไว้ราว ร.ศ.121 ประมาณ พ.ศ. 2445 กล่าวถึงวัดคีรีวิหารว่า เป็นวัดโบราณเก่าแก่มาก แต่ขาดการบูรณะมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันได้มีการพัฒนามากขึ้นแล้ว อีกทั้งทรงพบพระพิมพ์ดินดิบรูปพระโพธิสัตว์ปางต่าง ๆ จารึกด้วยคาถาพระอัสสชิว่า เยธมฺมา ด้วยอักขระเทวานาครี ตามพุทธนิกายวัชรยาน ชาวบ้านเรียกพระพิมพ์ที่พบนี้ว่า "พระผีทำ"
พระพิมพ์ดินดิบที่พบนั้น มีอยู่จำนวนมาก แต่แบ่งออกได้เป็น 3 แบบ คือ พระพิมพ์ดินดิบรูปวงรีคล้ายลูกไข่พระพิมพ์ดินดิบมีรูปพระนารายณ์สี่กรอยู่กลางมีเทวดาล้อมแปดองค์ พระพิมพ์ดินดิบรูปกลีบบัวมีรูปพระนารายณ์สี่กรองค์เดียว และพระพิมพ์ดินดิบรูปแผ่นอิฐมีรูปพระนารายณ์สองกรอยู่กลาง มีสาวกหรือเทวดาสองข้าง
ดร. พิริยะ ไกรฤกษ์ ได้ตรวจสอบคาดคะเนว่ามีอายุเก่าแก่ถึงประมาณพุทธศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันพระพิมพ์ดินดิบเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีโดยเจ้าอาวาสของวัด (กรมศิลปากร 2565) (กรมศิลปากร 2565)
ปูชนียวัตถุสำคัญอื่น เช่น พระพุทธรูปปางมารวิชัย จำนวน 7 องค์ และพระพุทธรูปพุทธไสยาสน์ 1องค์ บริเวณใต้เพิงผาภูเขาวัดคีรีวิหารซึ่งเป็นลานเรียบเสมอลานวัด มีพระพุทธรูปอีก2องค์ เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิ อีกองค์เป็นพระพุทธรูปปางนิพพาน พระหัตถ์เบื้องขวาวางพาดเขนยเสมอพระพักตร์ ประทับตรากงจักร (กรมศิลปากร 2565)
ทางด้านการศึกษาได้เปิดสอนปริยัติธรรมตั้งแต่ พ.ศ.2506 นอกจากนี้ยังจัดให้มีที่อ่านหนังสือพิมพ์ประชาชน ศูนย์สภาตำบล และยังได้ให้ทางราชการใช้สถานที่วัดสร้างโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นอีกด้วย
กรมทรัพยากรธรณี. การจำแนกเขตเพื่อการจัดการด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีจังหวัดตรัง. กรุงเทพฯ: หจก. ไอเดีย สแควร์, 2550.
กรมศิลปากร. "วัดวิหาร (วัดคีรีวิหาร)" ระบบภูมิสารสนเทศ แหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม. (ออนไลน์). เข้าถึงเมื่อ 20 มกราคม 2565. เข้าถึงจาก http://gis.finearts.go.th/fineart/
ภาณุวัฒน์ เอื้อสามาลย์, ศิริพร สังข์ศิริ, และธวัชชัย ชั้นไพศาลศิลป์. 247 โบราณสถานภาคใต้ที่ขึ้นทะเบียนแล้วและข้อมูลหลักฐานใหม่ทางโบราณคดี. นครศรีธรรมราช : สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช, 2561.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ระบบทะเบียนวัด. (ออนไลน์). เข้าถึงเมื่อ 15 มกราคม 2565. เข้าถึงจาก http://binfo.onab.go.th/Temple/Temple-List-view.aspx